DSI จับกุมตัวผู้ต้องหากรณีหลอกลวงหญิงไทยไปบังคับค้าประเวณีที่สาธารณรัฐเกาหลี
เผยแพร่: 16 พ.ย. 2561 16:52 น. ปรับรุง: 16 พ.ย. 2561 16:52 น. เปิดอ่าน 2001 ครั้ง
DSI จับกุมตัวผู้ต้องหากรณีหลอกลวงหญิงไทยไปบังคับค้าประเวณีที่สาธารณรัฐเกาหลี
สืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับข้อมูลจากองค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) ว่ามีหญิงไทยถูกหลอกลวงไปบังคับค้าประเวณี ณ สาธารณรัฐเกาหลี โดยหลอกลวงว่าจะเดินทางไปทำงานนวดแผนไทย แต่เมื่อเดินทางไปถึงสาธารณรัฐเกาหลีกลับมีการบังคับให้ค้าประเวณีอย่างทารุณ รวมทั้งยึดหนังสือเดินทาง และกักขังโดยมีบุคคลคอยควบคุมอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจสาธารณรัฐเกาหลีได้เข้าไปช่วยเหลือผู้เสียหายพร้อมทั้งจับกุมตัวผู้ต้องหาชาวเกาหลี จำนวน 8 ราย พร้อมดำเนินคดีในข้อหาค้ามนุษย์ฯ
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตระหนักถึงกรณีปัญหาการค้ามนุษย์เป็นนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง จึงได้สั่งการให้กองคดีการค้ามนุษย์ ดำเนินการในกรณีนี้อย่างเด็ดขาด จนนำไปสู่การขออนุมัติเป็นคดีพิเศษ (คดีพิเศษที่ 41/2560) โดยได้สั่งการให้คณะพนักงานสอบสวนทำการสืบสวนสอบสวน รวมทั้งประสานงานสถานทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย โดยได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติและสำนักงานอัยการ ประจำสาธารณรัฐเกาหลีจึงทราบว่าในคดีดังกล่าวมีการกระทำในลักษณะขบวนการอาชญากรรม ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษดังกล่าว นำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 10 ราย สัญชาติไทย จำนวน 3 ราย สัญชาติเกาหลี จำนวน 7 ราย การดำเนินการของคณะพนักงานสอบสวนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว จำนวน 3 ราย สัญชาติไทย จำนวน 1 ราย สัญชาติเกาหลี จำนวน 2 ราย
ต่อมาเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2561 เจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอย ได้เข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2235/2560 ราย นายชัยชาญ ราชโพธิ์ทอง อายุ 33 ปี สัญชาติไทย ได้บริเวณจังหวัดนครราชสีมา ในข้อหาสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งบุคคลใดโดยข่มขู่ ใช้กำลังบังคับ ลักพาตัว ฉ้อฉล หลอกลวง ใช้อำนาจโดยมิชอบ ฯลฯ ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ต้องหาและนำตัวไปฝากขังเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ในส่วนของผู้ต้องหาสัญชาติเกาหลี จำนวน 7 ราย เพื่อนำไปสู่การจับกุมตัวผู้ต้องหาให้ได้ทั้งขบวนการต่อไป