DSI จับมือ ศพดส.ภ.2 รวบแอดมินกลุ่มแชร์ภาพลามกอนาจารเด็ก
เผยแพร่: 18 ก.พ. 2562 9:44 น. ปรับรุง: 18 ก.พ. 2562 9:44 น. เปิดอ่าน 3393 ครั้งDSI จับมือ ศพดส.ภ.2 รวบแอดมินกลุ่มแชร์ภาพลามกอนาจารเด็ก
การล่วงละเมิดทางเพศเด็กนับเป็นอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบร้ายแรงและยาวนาน ต่อเด็กที่ตกเป็นเหยื่อและครอบครัว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะที่เป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายซึ่งอยู่ต้นธารของกระบวนการยุติธรรม จึงได้ให้ความสำคัญในการปราบปรามอาชญากรรมดังกล่าว โดยทำงานร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรในภาคส่วนต่าง ๆ
ที่เป็นพันธมิตรอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่การแบ่งปันข้อมูลการข่าว การสืบสวนสอบสวน การสนธิกำลังจับกุมและดำเนินคดี การตรวจพิสูจน์พยานหลักฐาน จนถึงการช่วยเหลือเด็กที่เป็นเหยื่อ
สืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับแจ้งเบาะแสจากมูลนิธิ Operation Underground Railroad (O.U.R.) เกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยว่าครอบครองและเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็กซึ่งอยู่ในพื้นที่จังหวัดตราด พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้มอบหมายให้ พันตำรวจโท ปกรณ์ สุชีวกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กำกับดูแลการสืบสวนกรณีดังกล่าว โดย พันตำรวจเอก อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ ผู้อำนวยการกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ควบคุมการสืบสวน ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้สืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเป็นเวลา 6 เดือน จนสามารถระบุผู้กระทำความผิด ซึ่งมีพฤติการณ์โฆษณาทางเฟสบุ๊คชักชวนให้จ่ายเงินสมัครเป็นสมาชิกกลุ่มไลน์ปิดซึ่งตนเองเป็นผู้ดูแล (แอดมิน) โดยมีการแชร์ภาพลามกอนาจารเด็กระหว่างสมาชิกกลุ่มดังกล่าว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองตราดเป็นผู้รับคดีและขอหมายจับ
ล่าสุด เมื่อวันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ภายใต้การดำเนินงานของ ร้อยตำรวจเอก เขมชาติ ประกายหงษ์มณี รองผู้อำนวยการกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จึงได้สนธิกำลังกับศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัวและป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ตำรวจภูธรภาค 2 (ศพดส.ภ.2) กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าจับกุมนายสมญา ลาภวิไล ผู้ต้องหาคดีดังกล่าว ตามหมายจับของศาลจังหวัดตราด ได้ที่บ้านของผู้ต้องหาในพื้นที่จังหวัดตราด และได้ทำการตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหา พบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายรายการ เช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 1 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง และพบไฟล์ภาพและคลิปลามกอนาจารเด็กในคอมพิวเตอร์ดังกล่าว มากกว่า 5,000 ไฟล์ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและให้ความร่วมมือกับการสืบสวนจับกุมครั้งนี้ ซึ่งมีมูลนิธิ O.U.R. ร่วมสังเกตการณ์
สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไปนั้น กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ จะดำเนินการระบุตัวตนของเด็กที่เป็นเหยื่อ ซึ่งปรากฏในรูปลามกอนาจารที่ยึดได้ เพื่อช่วยเหลือเหยื่อ และขยายผลการสืบสวนจับกุมไปยังเครือข่ายผู้กระทำความผิดล่วงละเมิดทางเพศเด็กและครอบครองเผยแพร่ภาพลามกอนาจารเด็กต่อไป
สุดท้ายนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษขอแจ้งเตือนประชาชนว่า นอกจากการผลิตและเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อการค้าจะมีความผิดอาญาแล้ว การครอบครองสื่อดังกล่าวเพื่อแสวงหาประโยชน์ทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่นก็มีความผิดทางอาญาเช่นกัน และหากพบว่า มีการผลิตหรือเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็ก หรือพฤติกรรมที่มีลักษณะดังกล่าว ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการกับผู้กระทำความผิดต่อไป ทั้งนี้ สามารถแจ้งข้อมูล/เบาะแสได้ที่เว็บไซต์กรมสอบสวนคดีพิเศษ www.dsi.go.th หรือ สายด่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร.1202 โทร.ฟรีทั่วประเทศ
*******************************************************