DSI ออกหมายเรียกแกนนำรับทราบข้อกล่าวหา 17 คน และสั่งอายัดบัญชีนายสุเทพฯ และแกนนำรวม 18 คน พร้อมบัญชีที่ใช้รับบริจาค

เผยแพร่: 18 ธ.ค. 2556 16:44 น. ปรับรุง: 18 ธ.ค. 2556 16:44 น. เปิดอ่าน 1919 ครั้ง  
 

 

DSI ออกหมายเรียกแกนนำรับทราบข้อกล่าวหา 17 คน และสั่งอายัดบัญชีนายสุเทพฯ และแกนนำรวม 18 คน พร้อมบัญชีที่ใช้รับบริจาค

 

หลังจากที่คณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ กคพ. ได้มีมติเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2556 ให้คดีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวกถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดหลายฐานความผิดต่างกรรมต่างวาระอันสืบเนื่องจากการชุมนุมในนาม กปปส.เป็นคดีพิเศษ ซึ่งรวมถึงตัวการร่วม ผู้ช่วยเหลือและสนับสนุน ตลอดจนกลุ่มทุนที่สนับสนุน (ท่อน้ำเลี้ยง) นั้น

 

วันนี้ (18 ธันวาคม 2556) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี DSI ได้แถลงหลังการประชุมคณะพนักงานสอบสวนว่า การมีมติเป็นคดีพิเศษก็เพื่อให้การสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีนี้มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งมติ กคพ.ได้กำหนดให้การสอบสวนบูรณาการร่วมกัน 3 ฝ่าย คือ พนักงานสอบสวนของ DSI พนักงานสอบสวนของ สตช. และพนักงานอัยการ

 

โดยในวันนี้ได้มีการประชุมคณะพนักงานสอบสวนเป็นครั้งแรก เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องเร่งด่วนและจำเป็น ซึ่งที่ประชุมได้มีมติดำเนินการเร่งด่วนทันที ดังนี้

 

1. ออกหมายเรียกแกนนำอีก 17 คน ให้มารับทราบข้อกล่าวหา ทั้งนี้เป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากที่พนักงานสอบสวนของ บชน.ได้ดำเนินการขอศาลออกหมายจับไว้ แต่ศาลได้สั่งให้ดำเนินการออกหมายเรียกก่อน ดังนั้นเพื่อเป็นไปตามคำสั่งของศาลดังกล่าว DSI จึงจะได้ออกหมายเรียกแกนนำทั้ง 17 คน มารับทราบข้อกล่าวหา โดยจะส่งหมายเรียกให้มีผลตามกฎหมายทันทีในวันพรุ่งนี้ (ปรากฎรายชื่อตามบัญชีแนบท้าย)

 

2. ออกคำสั่งอายัดบัญชี 18 คน ทั้งนี้สืบเนื่องจากการดำเนินการตามคำสั่งศาลที่ได้อนุมัติหมายจับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไว้และให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกแกนนำอีก 17 คน มารับทราบข้อกล่าวหา บุคคลรวมทั้ง 18 คนดังกล่าว จึงอยู่ในข่ายผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด ซึ่งมีมูลเบื้องต้นจากการถูกออกหมายจับ และหมายเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาและทำการสอบสวนแล้ว จึงมีพยานหลักฐานตามสมควรว่ามีเหตุน่าเชื่อว่าได้ร่วมกระทำความผิด ฉะนั้นเพื่อประโยชน์ในการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ในการจะใช้พิสูจน์ความผิดหรือบริสุทธิ์ของผู้ต้องหาทั้ง 18 คน ตามที่พนักงานสอบสวนของ สตช.ได้ดำเนินการเบื้องต้นมาส่วนหนึ่งแล้ว DSI จึงเห็นสมควรใช้อำนาจตามมาตรา 24 แห่ง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ออกคำสั่งแจ้งไปยังธนาคารทุกแห่งให้อายัดบัญชีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำรวม 18 คน ในทุกบัญชี ทุกประเภท ทุกธนาคาร และให้ธนาคารนั้น ๆ จัดส่งหลักฐานการเดินบัญชี (Statement) ย้อนหลัง 6 เดือน ให้ DSI โดยด่วนที่สุด ทั้งนี้จะเริ่มดำเนินการทันที

 

โดยส่งหนังสือแจ้งคำสั่งไปยังธนาคารทุกธนาคารในวันพรุ่งนี้ นายธาริตฯ แถลงเพิ่มเติมว่าการสั่งอายัดบัญชีของแกนนำทั้ง 18 คนนี้ จะกระทำพร้อมกับสั่งอายัดบัญชีที่แกนนำ กปปส.ได้ประกาศไว้ให้เป็นบัญชีรับบริจาคเพื่อสนับสนุนการชุมนุม ซึ่งขณะนี้พบมี 2 บัญชี การอายัดบัญชีและตรวจสอบย้อนหลัง 6 เดือนนี้ เพื่อการตรวจสอบแสวงหาพยานหลักฐาน ซึ่ง DSI ก็ดำเนินการเป็นปกติในคดีความผิดของคดีอื่น ๆ เป็นปกติอยู่แล้ว คาดว่าผลการตรวจสอบย้อนหลัง 6 เดือนในบัญชีแกนนำทั้ง 18 คน และบัญชีรับบริจาคอีก 2 บัญชีนี้ จะทำให้เห็นความเคลื่อนไหวของกระแสเงินและจะทำให้ทราบว่ามีผู้ให้การสนับสนุนในลักษณะท่อน้ำเลี้ยงที่ให้เงินผ่านบัญชีแกนนำและบัญชีรับบริจาคกี่คน กี่ครั้ง จำนวนเงินเท่าใดบ้าง เพื่อใช้เป็นข้อมูลสอบทานกับข้อมูลกลุ่มทุนท่อน้ำเลี้ยงที่ตำรวจร่วมกับ DSI ตรวจสอบไว้ก่อนหน้านี้แล้วด้วย จึงขอเตือนให้กลุ่มทุนหรือท่อน้ำเลี้ยงที่สนับสนุนการชุมนุมที่ผิดกฎหมายให้หยุดการสนับสนุนการกระทำผิดเสียทันที โดยเฉพาะเมื่อ DSI ได้ประกาศแจ้งเตือนเช่นนี้แล้ว หากยังฝ่าฝืนจะถือว่ามีเจตนาสนับสนุนหรือร่วมกระทำผิดกับบรรดาแกนนำอย่างเจตนาโดยชัดเจน

 

3. ออกหมายเรียกเจ้าของยานพาหนะ บริษัท ร้านค้า ที่ให้การสนับสนุนการชุมนุมมาสอบสวน เนื่องจากข้อมูลที่พนักงานสอบสวนของ สตช.ร่วมกับพนักงานสอบสวน DSI ได้ดำเนินการร่วมกันมาพบว่ามีเจ้าของยานพาหนะ บริษัท ร้านค้า ให้การสนับสนุนการชุมนุมที่ผิดกฎหมายจำนวนหนึ่ง เพื่อคัดกรองว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้ามาร่วมให้การบริการ เพราะรับจ้างมาหรือจงใจสนับสนุนเป็นข้อเท็จจริงประการใด จึงจะได้ออกหมายเรียกบุคคลดังกล่าวมาสอบสวน เพื่อให้ได้ทราบความจริงประกอบการดำเนินคดีต่อไป ซึ่งจะเริ่มดำเนินการทันที

-------------------------------------------------------------------

 

รายชื่อผู้ที่ต้องทำการออกหมายเรียก

 

1.นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย
2.นายชุมพล จุลใส
3.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
4.นายอิสระ สมชัย
5.นายวิทยา แก้วภราดัย
6.นายถาวร เสนเนียม
7.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ
8.นายเอกนัฏ พร้อมพันธ์
9.นางอัญชะลี ไพรีรัก
10.นายนิติธร ล้ำเหลือ
11.นายอุทัย ยอดมณี
12.ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์
13.พลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรณ
14.นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์
15.นายยศศักดิ์ โกไศยกานนท์
16.พ.ต.ท.ศุภวัฒน์ สุปิยะพาณิชย์
17.นายสมบูรณ์ ทองบุราญ

 

 

ฐานความผิด/ ข้อกล่าวหา

“ร่วมกันเป็นกบฎ, กระทำให้ปรากฎแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน, มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญ ว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้า หรือเป็นผู้มีหน้าที่ สั่งการ และเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกไปแต่ไม่เลิก”