DSI - สำนักงานตำรวจแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา

ผนึกกำลังการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ข้ามชาติ

      สืบเนื่องจากศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้อนุมัติให้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ ๑๒/๒๕๖๐ (กรณี องค์การยุติธรรมนานาชาติแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยชาวกัมพูชาที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดค้ามนุษย์ข้ามชาติ โดยนำแรงงานชายชาวกัมพูชาจำนวน ๑๒ รายลงเรือประมงในประเทศไทย)โดยพันตำรวจตรีอาริชย์ ทัศน์พันธุ์ ผู้อำนวยการส่วนคดีการค้ามนุษย์ ๓ หัวหน้าคณะ เดินทางไปปฏิบัติราชการ ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา ระหว่างวันที่ ๒๙ เมษายน–๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เพื่อรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในคดีค้ามนุษย์ มีรายละเอียดดังนี้

      คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้เข้าพบนายปัญญรักษ์ พูลทรัพย์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำ
กรุงพนมเปญ ณ สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงพนมเปญ ซึ่งที่ประชุมได้หารือถึงสถานการณ์การค้ามนุษย์ระหว่างไทยและกัมพูชา รวมถึงแนวทางความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการบังคับใช้กฎหมายของ
ทั้งสองประเทศ

      จากนั้นคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเข้าพบและเยี่ยมคารวะ ฯพณฯ Chou Bun Eng : Secretary of State และรองประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา โดยได้มีการหารือ แลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์การค้ามนุษย์ของทั้งสองประเทศ พร้อมทั้งประชุมร่วมกับคณะกรรมการค้ามนุษย์แห่งชาติ ราชอาณาจักรกัมพูชา นำโดย พลตำรวจเอกPoon Samkhan เพื่อร่วมหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลในทางคดี

      คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้เดินทางไปยังกองบัญชาการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์และเด็กเพื่อประชุมหารือร่วมกับพลตำรวจโท Pak Youleang รองผู้บัญชาการกองบัญชาการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ฯ โดยในการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้แลกเปลี่ยนข้อมูลการดำเนินคดีกับขบวนการนายหน้าค้ามนุษย์ ทั้งในส่วนของประเทศไทยและประเทศกัมพูชา รวมทั้งหารือถึงแนวทาง
ความร่วมมือในการดำเนินคดีกับขบวนการนายหน้าค้ามนุษย์นี้ให้เกิดเป็นประสิทธิภาพและประสิทธิผล หลังจากนั้นคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้เดินทางไปประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ณ เมืองกัมปงธม และเมืองเสียมราฐ เพื่อขอทราบรายละเอียดและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดีพิเศษนี้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชา ได้นำคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางลงพื้นที่เพื่อรวบรวมข้อมูลในทางคดี

      นอกจากนี้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษยังได้ประชุมหารือร่วมกับองค์การพัฒนาเอกชน (NGOs) ได้แก่ องค์การยุติธรรมนานาชาติ (IJM) และองค์กร Chub-Daiซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือและดูแลผู้เสียหายให้เดินทางกลับไปยังราชอาณาจักรกัมพูชาเพื่อหารือถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ในคดีนี้