DSI ขยายผลจับแก๊งต้มตุ๋น ส่งจดหมายแอบอ้างมีเลขล็อค
เผยแพร่: 8 ส.ค. 2557 11:14 น. ปรับรุง: 8 ส.ค. 2557 11:14 น. เปิดอ่าน 2095 ครั้งDSI ขยายผลจับแก๊งต้มตุ๋น ส่งจดหมายแอบอ้างมีเลขล็อค
วันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๗ พลตำรวจเอก ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวนายศุภชัยหรือปุ๊ก ภูทะวัง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ ๒๓๐๘/๒๕๕๖ ลงวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ดำเนินคดีฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม, ร่วมกันใช้บัตรอิเล็คทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ และร่วมกันใช้เครื่องหมายครุฑพ่าห์โดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๔๒(๑), ๓๔๓, ๒๖๔, ๒๖๘ , ๒๖๙/๕ และพระราชบัญญัติเครื่องหมายครุฑพ่าห์ พ.ศ.๒๕๓๔ มาตรา ๑๓ และเป็นผู้ก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดไม่ว่าด้วยการใช้ บังคับขู่เข็ญ จ้างวานหรือยุยงส่งเสริมหรือด้วยวิธีอื่นใด ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา ๘๔
โดยเมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๗ เวลา ๐๗.๐๐ น. พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนฯ , พ.ต.ท.ยุทธภูมิ สันธนะจิตร, พ.ต.ท.อนันต์ ทิพย์สุวรรณ , พ.ท.ชุมโชค จิ๋วเจริญ และนายชาญบุล แกมนิล ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ จับกุมผู้ต้องหาได้ที่ หมู่ ๓ ต.โคกเดื่อ. อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์. พร้อมยึดของกลางเป็นบัตรเอทีเอ็มของบุคคลอื่นจำนวน ๔ ใบ(ใช้ในการรับเงินที่ได้มาจากการหลอกลวง)โทรศัพท์มือถือจำนวน ๑๐ เครื่อง ,รถยนต์ Toyota ทะเบียน ๑ กฉ-๑๑๐๗ กทม. และอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำผิดอื่น ๆ อีกจำนวนหลายรายการ โดยมีพฤติการณ์กล่าวคือ ผู้ต้องหาได้ร่วมกับนายพรหมชัยหรือสัมฤทธิ์ ภูทะวัง (บิดาผู้ต้องหาซึ่งอยู่หลบหนีหมายจับ) นส.ศิริมาส สุขสมาน และนายสานิต ศรีสุวงศ์ (ถูกจับกุมแล้วเมื่อวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖) ทำจดหมายหลอกลวงโดยมีตราสัญลักษณ์และลายมือชื่อของผู้บริหารสำนักงานสลากฯ เพื่อใช้หลอกลวงประชาชนทั่วไป แล้วนำจดหมายหลอกลวงส่งตามตู้ไปรษณีย์ เมื่อประชาชนทั่วไปหรือผู้เสียหายได้รับจดหมายได้อ่านข้อความในจดหมายมีใจความว่า สำนักงานฯ จะล็อครางวัลเลขท้าย ๓ ตัวของรางวัลที่ ๑ ที่จะออกรางวัลในงวดต่างๆ ให้ หากสนใจให้สมัครเป็นสมาชิก เมื่อผู้เสียหายสนใจได้โอนเงินให้ผู้ต้องหาและได้รับหมายเลขแล้วได้ไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ผลการออกรางวัลผู้เสียหายไม่ถูกรางวัลแต่อย่างใด จึงทราบว่าถูกหลอก
การสอบสวนคดีพิเศษ พบว่ามีผู้เสียหายจำนวนนับ ๑๐,๐๐๐ รายทั่วประเทศที่ถูกหลอกลวงแล้วโอนเงินมาให้ผู้ต้องหา มีตั้งแต่รายละ ๕,๐๐๐ บาท ถึง ๒๐๐,๐๐๐ บาท ผู้ต้องหามีบัญชีรับโอนเงินจำนวนนับ ๑๐ บัญชี ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป
ชั้นจับกุมผู้ต้องหายอมรับว่าได้ทำจดหมายหลอกลวงต่อเนื่องมาเกือบทุกงวดที่มีการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดละ ๖๐๐-๑,๐๐๐ ฉบับ ได้เงินจากการหลอกลวงประชาชนเฉลี่ยงวดละ ๓๐,๐๐๐-๑๐๐,๐๐๐ บาท ในช่วงแรก จะหลอกลวงพ่อค้า,ประชาชนและข้าราชการทั่วไป ต่อมาในช่วงปี พ.ศ.๒๕๕๖ ถึงปัจจุบัน จะหลอกลวงเฉพาะพระภิกษุสงฆ์ตามวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ผู้ต้องหาร่วมกระทำผิดกับนายพรหมชัย ฯ บิดา มาตั้งแต่อายุ ๑๔ ปี จนถึงปัจจุบันอายุ ๓๖ รวมเวลากระทำผิด ๒๑ ปี ได้เงินจำนวนนับ ๑๐ ล้านบาท โดยไม่เคยถูกจับกุมในคดีดังกล่าวมาก่อนแต่อย่างใด