DSI จับมือจังหวัดสิงห์บุรี นำร่องเขตปลอดแชร์ลูกโซ่ 100 เปอร์เซ็นต์ในภาคกลาง
เผยแพร่: 12 มิ.ย. 2561 12:39 น. ปรับรุง: 12 มิ.ย. 2561 12:39 น. เปิดอ่าน 1443 ครั้งDSI จับมือจังหวัดสิงห์บุรี นำร่องเขตปลอดแชร์ลูกโซ่ 100 เปอร์เซ็นต์ในภาคกลาง
ในวันนี้ (วันอังคารที่ 12 มิถุนายน 2561) เวลา 10.30 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดย พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีกำหนดร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ กับจังหวัดสิงห์บุรี โดย นายสุทธา สายวาณิชย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ณ ศาลากลางจังหวัดสิงห์บุรี เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนหรือแชร์ลูกโซ่ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ โดยจังหวัดสิงห์บุรีจะเป็นจังหวัดนำร่องเขตปลอดแชร์ลูกโซ่ 100 % ในภาคกลาง
พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันพัฒนากลไก เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการกระทำความผิดที่มีลักษณะอาชญากรรมพิเศษแชร์ลูกโซ่ ซึ่งแพร่ระบาดเป็นจำนวนมาก โดยจะบูรณาการการทำงานอย่างเป็นระบบทั้งในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติการ ซึ่งได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการป้องปรามธุรกิจการเงินนอกระบบ โดยใช้กลไกคณะกรรมการป้องปรามธุรกิจการเงินนอกระบบและอนุกรรมการป้องปรามธุรกิจการเงินนอกระบบในส่วนภูมิภาค ในระดับจังหวัด เพื่อเฝ้าระวัง สอดส่อง ดูแลไม่ให้เกิดการจัดเวทีหลอกลวงฉ้อโกงประชาชน และให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนและผลตอบแทนที่ควรได้รับในการลงทุนปกติแก่ประชาชน โดยมีภาคเอกชนและภาคประชาชนเข้ามาเป็นเครือข่ายเฝ้าระวัง
แชร์ลูกโซ่เป็นการฉ้อโกงประชาชนที่หลอกลวงให้เหยื่อสมัครเป็นสมาชิกร่วมลงทุนในธุรกิจที่ไม่เน้นการจำหน่ายสินค้าหรือให้บริการ แต่จะอ้างว่ามีผลตอบแทนสูง โดยใช้นำเงินของผู้สมัครรายหลังไปจ่ายค่าตอบแทนให้ผู้ที่สมัครรายแรก ๆ และจะหยุดการจ่ายค่าตอบแทนในเวลาต่อมา แล้วปิดกิจการ พร้อมนำเงินที่ได้จากสมาชิกหนีไป ทำให้เกิดความเสียหายลุกลามในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และหากเป็นเรื่องที่มีความเสียหายในวงกว้าง หรือกระทำผิดซับซ้อนก็จะเป็นคดีพิเศษ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยระหว่างปี พ.ศ. 2547 - 2560 มีคดีพิเศษเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษกว่า 150 คดี มูลค่าความเสียหายไม่น้อยกว่า 20,000 ล้านบาท
ปัจจุบันกรมสอบสวนคดีพิเศษได้พัฒนาแอพพลิเคชัน “แชร์ลูกโซ่” เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงเบื้องต้นของธุรกิจที่ตนเองจะไปลงทุนว่ามีความเสี่ยงจะเป็นแชร์ลูกโซ่หรือไม่ โดยการดาวน์โหลดแอพพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือของตนเอง นอกจากนี้ ผู้เสียหายทั่วประเทศสามารถร้องทุกข์ ร้องเรียน ผ่าน 9 ช่องทางการสื่อสาร คือ (1) การติดต่อด้วยตนเองที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (2) การติดต่อผ่านเว็บไซต์ www.dsi.go.th (3) การยื่นหนังสือที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (4) ติดต่อผ่านสายด่วนหรือ Call Center 1202 (โทร.ฟรีทั่วประเทศ) (5) การติดต่อผ่าน Messenger Facebook ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (6) การติดต่อผ่านแอพพลิเคชัน DSI กรมสอบสวนคดีพิเศษ (7) การติดต่อผ่านตู้สีขาว รับเรื่องราวร้องทุกข์ (8) การติดต่อทางไปรษณีย์ และ (9) การติดต่อผ่านศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 1 (จังหวัดพระนครศรีอยุธยา) ซึ่งรับผิดชอบในการป้องกัน ปราบปราม สืบสวน สอบสวนคดีพิเศษเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในพื้นที่ภาคกลาง 9 จังหวัด คือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดอ่างทอง จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดชัยนาท จังหวัดสระบุรี จังหวัดลพบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนนทบุรี จังหวัดสมุทรปราการโดยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่อาคารศูนย์ส่งเสริมการท่องเที่ยวองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถนนอู่ทอง ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000 โทร. 081 649 9205