DSI ดำเนินการออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีฟอกเงินกรุงไทย
เผยแพร่: 16 พ.ย. 2561 14:49 น. ปรับรุง: 16 พ.ย. 2561 14:49 น. เปิดอ่าน 2737 ครั้งDSI ดำเนินการออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีฟอกเงินกรุงไทย
ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการสอบสวนคดีพิเศษ กรณี สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้กล่าวโทษให้ดำเนินคดีอาญากับ 1.นางเกศินี จิปิภพ 2.นางกาญจนาภา หงษ์เหิน 3.นายวันชัย หงษ์เหิน และ 4.นายพานทองแท้ ชินวัตร ในความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 อันเป็นคดีสืบเนื่องจากคดีการทุจริตในการอนุมัติสินเชื่อของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่ให้กับบริษัทในเครือกฤษดามหานคร ซึ่งคดีดังกล่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษมีการดำเนินการเสร็จสิ้นโดยได้มีความเห็นทางคดีและส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมตัวผู้ถูกกล่าวหาไปยังพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2561 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป แล้วนั้น
ต่อมาเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2561 พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 ได้นัด นางกาญจนาภา หงษ์เหิน ผู้ต้องหาที่ 2 และ นายวันชัย หงษ์เหิน ผู้ต้องหาที่ 3 มาฟังคำสั่งของพนักงานอัยการ แต่ผู้ต้องหาทั้งสองไม่มาตามกำหนดนัดของพนักงานอัยการโดยไม่มีเหตุผลอันควร พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีพิเศษ 4 จึงขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการจัดการให้ได้ตัวผู้ต้องหาทั้งสอง ส่งให้พนักงานอัยการโดยเร่งด่วน กรณีดังกล่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษมีการตรวจสอบติดตามแต่ไม่พบตัวผู้ถูกกล่าวหาทั้งสอง และพบข้อเท็จจริงว่าบุคคลทั้งสองได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2561 แล้ว เนื่องจากคดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559 ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาทั้งสอง มีพฤติการณ์หลบหนีไปในระหว่างถูกดำเนินคดี พนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อขอออกหมายจับบุคคลทั้งสอง นำส่งพนักงานอัยการ โดยเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2561 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้ออกหมายจับที่ จ.115/2561 ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2561 ให้จับตัวนางกาญจนาภา หงษ์เหิน และหมายจับที่ จ.116/2561 ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2561 ให้จับตัวนายวันชัยหงษ์เหิน แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551 เพื่อให้ได้ตัวผู้ต้องหาทั้งสองมาดำเนินคดีต่อไป
คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ
16 พฤศจิกายน 2561