DSI ผนึกกำลัง ก.ล.ต. ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

DSI ผนึกกำลัง ก.ล.ต. ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็น

ความผิดตามกฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เข้าพบอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อประชุมหารือการบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างหน่วยงาน โดยได้ข้อสรุปจากการประชุม จำนวน 4 เรื่อง ได้แก่

1. การแก้ไขปรับปรุงบันทึกความตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือในการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับคดีพิเศษ (MOU) ซึ่งได้ทำร่วมกันตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 และโดยที่ปัจจุบันกฎหมายของสำนักงาน ก.ล.ต. และกฎหมายของกรมสอบสวนคดีพิเศษมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป จึงเห็นควรแก้ไขเปลี่ยนแปลงเพื่อให้การปฏิบัติงานร่วมกันมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

2. การเชิญผู้แทนกรมสอบสวนคดีพิเศษเข้าร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการด้านตรวจสอบและคดี (Enforcement Committee) ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบและกลั่นกรองคดีเบื้องต้นของสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อให้การตรวจสอบด้านคดีเป็นไปด้วยความรัดกุมรอบคอบ และเกิดความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

3. การจัดหลักสูตรอบรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างหน่วยงานเพื่อเพิ่มศักยภาพเจ้าหน้าที่ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะส่งวิทยากรเข้าบรรยายให้ความรู้ในหลักสูตรที่กรมสอบสวนคดีพิเศษเชี่ยวชาญ อาทิเช่น หลักสูตรเกี่ยวกับเทคนิคการสืบสวนสอบสวน การรวบรวมและเก็บพยานหลักฐาน การเข้าตรวจค้น การต่อสู้ป้องกันตัว รวมถึงหลักสูตรด้านการข่าว เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สำนักงาน ก.ล.ต. และสำนักงาน ก.ล.ต. จะส่งวิทยากรมาบรรยายให้ความรู้ในเรื่องที่สำนักงาน ก.ล.ต. เชี่ยวชาญเช่นเดียวกัน รวมทั้งกำหนดให้มีการอบรมร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของทั้งสองหน่วยงานเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

4. การเน้นการปฏิบัติงานในเชิงรุก โดยเมื่อมีกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทำความผิดตามกฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงาน ก.ล.ต. จะขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษเข้าร่วมในการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงสนับสนุนข้อมูลในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ในการบังคับใช้กฎหมายให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

ทั้งนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ เห็นร่วมกันว่าความผิดตามกฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจทีมีผลกระทบต่อสังคมและประชาชนจำนวนมาก ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทั้งสองหน่วยงานจำต้องบูรณาการการปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันเพื่อให้การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมประเภทนี้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป