DSI ร่วมประชุม ๓ ฝ่าย : ไทย อินโดนีเซีย เมียนมา ต่อต้านการค้ามนุษย์ในอุตสาหกรรมประมง
เผยแพร่: 4 มิ.ย. 2558 18:19 น. ปรับรุง: 4 มิ.ย. 2558 18:19 น. เปิดอ่าน 1114 ครั้ง
DSI ร่วมประชุม ๓ ฝ่าย : ไทย อินโดนีเซีย เมียนมา ต่อต้านการค้ามนุษย์ในอุ ตสาหกรรมประมง
วันพฤหัสบดีที่ ๔ มิถุนายน๒๕๕๘ นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคณะหน่วยงานบังคั บใช้กฎหมายประเทศไทย ร่วมการประชุม ๓ ฝ่ายระหว่างประเทศ อินโดนีเซีย ประเทศเมียนมาร์และประเทศไทย เพื่ออภิปราย เรื่องการต่อต้านการค้ามนุษย์ ฝในอุตสาหกรรมประมง การสืบสวนสอบสวนการกระทำผิ ดกฎหมานการค้ามนุษย์ในอุ ตสาหกรรมประมง ณ โรงแรมดุสิตธานี เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี
อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า สืบเนื่ องจากแรงงานชาวไทยและชาติต่างๆ ได้เดินทางออกจากประเทศไทย ไปทำงานในอุตสาหกรรมประมงที่บริ เวณเกาะอัมบนและเกาะเบนจินาสาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยที่แรงงานบางส่วนเป็นผู้เสี ยหายจากการค้ามนุษย์ ซึ่งรัฐบาลไทยได้เร่งรัดกำลั งดำเนินคดีเหล่านี้อยู่อย่างเต็ มที่ แต่การสื บสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลั กฐานในคดีเหล่านี้ มีอุปสรรคในหลายประการ เนื่องจากเป็นอาชญากรรมข้ามชาติที่สลั บซับซ้อน ยุ่งยากในการค้นหาพยานหลักฐาน และต้องพิจารณาถึงเขตอำนาจการสอบสวนอีกด้วย
กระทรวงยุติธรรม โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานบังคั บใช้กฎหมายของไทย และโครงการออสเตรเลีย-เอเชีย เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ (AUSTRALIA – ASIA PROGRAM TO COMBAT TRAFFICKING IN PERSONS) (AAPTIP) ริเริ่มจัดการประชุมสามฝ่ ายระหว่างประเทศอินโดนีเซีย ประเทศเมียนมา และประเทศไทย เพื่ออภิปรายเรื่องการต่อต้ านการค้ามนุษย์ในอุ ตสาหกรรมประมง การสืบสวนสอบสวนการกระทำผิ ดกฎหมายการค้ามนุษย์ในอุ ตสาหกรรมการประมง โดยเชิญผู้แทนจากหน่วยงานบังคั บใช้กฎหมายประเทศไทยอินโดนีเซีย และเมียนมา รวมกว่า ๓๐ คน มาร่วมประชุมในระหว่างวันที่ ๔ – ๕ มิถุนายน ๒๕๕๘ ณ โรงแรมดุสิตธานี เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยโครงการ (AAPTIP) ได้ให้การสนับสนุนในด้ านงบประมาณทั้งหมด เพื่อเป็นการแลกเปลี่ ยนประสบการณ์และข้อมูลข่าวสาร รวมถึงความท้าท้ายในการจั ดการอาชญากรรมดังกล่าวให้มี ประสิทธิภาพอย่างจริงจัง โดยคาดหวังให้ผู้เข้าร่วมประชุม มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบั นของการค้ามนุษย์ ในอุตสาหกรรมประมงที่ส่งผลกระทบต่อประเทศต่างๆร่วมกัน สร้างความร่วมมือในการบังคับใช้ กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งร่วมกั นหามาตรการในการแก้ปัญหาดังกล่ าวร่วมกัน นอกจากนี้จะสร้างความยั่งยื นในการทำงานร่วมกันของทั้ งสามประเทศต่อไปในอนาคตอีกด้วย
ข่าวล่าสุด
เปิดอ่าน 253 ครั้ง
เปิดอ่าน 203 ครั้ง
ข่าวที่น่าสนใจ
เปิดอ่าน 253 ครั้ง
เปิดอ่าน 203 ครั้ง