DSI สนธิกำลังร่วมกับ ทหารกองพล ร.5 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สภ.สะเดา ทลายเครือข่ายแก๊ง Call Center หลอกโอนเงิน

เผยแพร่: 2 ส.ค. 2560 14:01 น. ปรับรุง: 2 ส.ค. 2560 14:01 น. เปิดอ่าน 2550 ครั้ง  
 

DSI สนธิกำลังร่วมกับ ทหารกองพล ร.5 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สภ.สะเดา
ทลายเครือข่ายแก๊ง
Call Center หลอกโอนเงิน

        ด้วย ได้มีกลุ่มผู้กระทำผิดโดยใช้โทรศัพท์ผ่านทางระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (VoIP) ติดต่อกับประชาชนผู้เสียหายโดยแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI), ปปง., ปปส., เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ โดยใช้อุบายหลอกลวงเหยื่อผู้เสียหายว่ามีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งผู้เสียหายจะต้องถูกอายัดบัญชีเงินในธนาคารทั้งหมด เพื่อโอนมาให้ธนาคารแห่งประเทศไทยทำการตรวจสอบ โดยจะให้ผู้เสียหายไปถอนเงินสดและมาฝากเงินสดเข้าตู้ฝากเงินสดอัตโนมัติ (CDM) เท่านั้น มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อถูกหลอกลวงจำนวนมาก

         รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้มอบนโยบายให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อความเดือดร้อนของประชาชนอย่างรุนแรง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้มอบหมายให้สำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ และศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ สนธิกำลังร่วมกับทหารชุด ฉก.ร.5 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สถานีตำรวจภูธร ดำเนินการสืบสวนจนทราบว่า กลุ่มผู้กระทำผิดดังกล่าวเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่จังหวัดสงขลา และเชื่อมโยงกับคนร้ายในภาคอื่น ๆ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 31 กรกฏาคม 2560 พันตำรวจโท วิชัย สุวรรณประเสริฐ ผู้บัญชาการสำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ได้สนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวมาเลเซีย จำนวน 1 คน ขณะกำลังกดเงินสดออกจากตู้กดเงินสดอัตโนมัติ (ATM) ได้ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ตำบลด่านนอก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา และขยายผลควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวมาเลเซียเชื้อสายจีนได้อีก 1 คน และจากการซักถามเบื้องต้นจากผู้ต้องสงสัยที่ควบคุมได้ทราบว่ามีบุคคลอื่นที่เป็นชาวมาเลเซียและชาวไทยเกี่ยวข้องร่วมขบวนการอีกมาก ซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซียและในประเทศไทยบริเวณเขตอำเภอสะเดา หรือผ่านเข้าออกทั้งสองประเทศ ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้ได้ของกลางจำนวน 41 รายการ เช่น เงินสดจำนวน 497,100 บาท พร้อมสมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 6 เล่ม, บัตรกดเงินสด (ATM) จำนวน 8 ใบ, โทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง และซิมการ์ดโทรศัพท์มือถืออีกหลาย 10 อัน

         ในการปฏิบัติการครั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษขอขอบคุณหน่วยงานต่าง ๆ ที่ร่วมบูรณาการจนประสบผลสำเร็จ ทั้งหน่วยงานของทหาร สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท้องที่ สถาบันการเงิน บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด เครือข่ายโทรคมนาคม และขอประชาสัมพันธ์ให้พนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุที่เคยรับเรื่องไว้ดำเนินคดี ประสานขอข้อมูลกับสำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศได้ และขอย้ำเตือนประชาชนว่า หากมีบุคคลอ้างเป็น เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ให้ท่านโอนเงินหรือถอนเงิน แม้หมายเลขโทรศัพท์ที่ปรากฏจะเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของหน่วยงานนั้น ๆ จริง ก็อย่าได้หลงเชื่อโดยเด็ดขาด ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือสอบถามไปยังหน่วยงานนั้นโดยทันที นอกจากนี้ยังฝากเตือนผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารให้บุคคลอื่นหากบัญชีนั้นถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิดเจ้าของบัญชีจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย

****************************************************************

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ