DSI สืบสวนกรณีหญิงไทยถูกหลอกลวงไปบังคับค้าประเวณี ณ ประเทศบาห์เรน
เผยแพร่: 24 พ.ย. 2559 17:03 น. ปรับรุง: 24 พ.ย. 2559 17:03 น. เปิดอ่าน 1484 ครั้งDSI สืบสวนกรณีหญิงไทยถูกหลอกลวงไปบังคับค้าประเวณี ณ ประเทศบาห์เรน
ตามที่ พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และพันตำรวจเอก ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษในฐานะที่กำกับดูแลศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ได้มอบหมายให้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 76/2559 และ 77/2559 (กรณีหญิงไทยถูกหลอกลวงไปบังคับค้าประเวณีที่ประเทศบาห์เรน) นำโดย พันตำรวจเอก อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ รักษาการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ และนายอภิชัย ทองประสม อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เดินทางไปสืบสวนแสวงหาข้อเท็จจริง ณ ประเทศบาห์เรน ระหว่างวันที่ 13 - 18 พฤศจิกายน 2559 ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว โดยคณะฯ ได้เดินทางเข้าพบ H.E. Mr. Ausamah Abdulla Al Absi ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์แห่งประเทศบาห์เรน โดยได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และอภิปรายถึงสถานการณ์การหลอกลวงหญิงไทยมาบังคับค้าประเวณียังประเทศบาห์เรน รวมถึงมาตรการในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวในอนาคตอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งได้เข้าร่วมการประชุมกับเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงมานามา ประเทศบาห์เรน โดยที่ผู้แทนสถานทูตได้มอบเอกสารและข้อมูลที่สำคัญซึ่งเกี่ยวข้องในคดีพิเศษดังกล่าวให้แก่คณะฯเพื่อใช้ประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ รวมทั้งเป็นฐานข้อมูลในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ในลักษณะดังกล่าวต่อไป และได้เดินทางไปยังสำนักงานอัยการของประเทศบาห์เรน โดยได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลสำคัญในการดำเนินคดีค้ามนุษย์ของทั้งสองประเทศ รวมถึงได้เดินทางไปสำรวจสถานที่เกิดเหตุที่ผู้เสียหายในคดีถูกหลอกลวงไปบังคับค้าประเวณี โดยจะทำการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ในคดีก่อนจัดทำสำนวนส่งให้พนักงานอัยการโดยเร็วต่อไป
นอกจากนี้คณะฯ ยังได้เดินทางไปเยี่ยมชมบ้านพักฉุกเฉินของประเทศบาห์เรน (Shelter) โดยได้รับการต้อนรับและพาคณะฯ เดินสำรวจ Shelter พร้อมตอบข้อซักถามเป็นอย่างดี รวมทั้งได้เดินทางไปเยี่ยมบ้านคนไทยซึ่งเป็นสถานที่ที่รับดูแลหญิงไทยก่อนเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งในบางครั้งต้องดูแลผู้หญิงไทยจำนวนมากถึง 15 ราย รวมถึงได้ร่วมหารือกับกลุ่มผู้นำชุมชนคนไทยในประเทศบาห์เรน พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงสถานการณ์การค้ามนุษย์ของหญิงไทยในประเทศบาห์เรน นอกจากนี้ยังได้แจกแผ่นพับประชาสัมพันธ์การป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ และขอความร่วมมือกลุ่มคนไทยในประเทศบาห์เรนในการสอดส่องดูแลเพื่อแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ถือว่าภารกิจดังกล่าวเป็นมาตรการเชิงรุกของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของไทย กับสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงมานามา ร่วมกันประสานงานกับหน่วยราชการของประเทศบาห์เรนที่จะจัดทำเอกสารเผยแพร่การประชาสัมพันธ์และการดำเนินการต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์และเป็นการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ที่แสดงถึงความร่วมมือระหว่างสองประเทศ โดยปรากฏในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นและภาพกิจกรรมต่าง ๆ อันเป็นการบูรณาการร่วมกันกับทุกภาคส่วนในการป้องกันและปราบปรามปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นระบบและเป็นรูปธรรม ซึ่งจะส่งผลถึงภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ต่อไป
ล่าสุด ผู้ที่อาจตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ในประเทศบาห์เรน จำนวน 5 ราย ได้เดินทางกลับสู่ประเทศไทยเมื่อวันพุธที่ 23 พฤศจิกายน 2559 ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะหารือร่วมกับคณะพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ในประเด็นการช่วยเหลือและดำเนินคดีให้กับกลุ่มผู้หญิงไทยดังกล่าวต่อไป