DSI อำนวยความยุติธรรมให้ชาวบ้านอุดรธานี ในปัญหาที่ดินทำกิน

สืบเนื่องจาก สำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุดรธานี ได้มีหนังสือขอความช่วยเหลือจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณี นายวัน ดอนไพร ราษฎร ตำบลหนองนาคำ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี กับพวก ถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีอาญา เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2559 ในความผิดฐานร่วมกันบุกรุกที่ดินของนายทุนรายหนึ่ง และร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ต่อศาลจังหวัดอุดรธานี และให้ชดใช้เงิน 38,400,000 บาท ซึ่งผู้ร้องอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นของผู้ร้อง โดยเอกสารสิทธ์ที่เป็นโฉนดที่ดินของโจทก์ออกมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่กระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้มอบหมายให้กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กับคณะ ทำการสืบสวน

ผลการสืบสวนมีพยานหลักฐานสรุปได้ว่า มีการออกโฉนดที่ดินทับที่ดินที่พิพาทโดยเชื่อว่าเป็นการออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงสนับสนุนข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ได้จากการสืบสวนให้ผู้ร้องเพื่อต่อสู้คดีในชั้นการพิจารณาของศาลจังหวัดอุดรธานี และในชั้นอุทธรณ์ของศาลอุทธรณ์ภาค 4 ต่อมาศาลจังหวัดอุดรธานีได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2561 พิพากษาให้ยกฟ้องนายวัน ดอนไพร และนางเสาวลักษณ์ สุวรรณแสง โดยในคำพิพากษาได้ปรากฏเหตุผลสำคัญคือเนื่องจากโจทก์ร่วมมีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท หากแต่ระหว่างโจทก์ร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ได้เคยมีกรณีพิพาทคัดค้านการออกโฉนดที่ดินเลขที่ 144466 ตำบลหนองนาคำ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี อยู่เรื่อยมาก่อนถูกฟ้องเป็นคดีนี้ การที่เจ้าพนักงานที่ดินเบิกความว่าออกโฉนดที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมาย มีการส่งหนังสือแจ้งให้จำเลยที่ 2 ใช้สิทธิอุทธรณ์และฟ้องคดีต่อศาลปกครองแล้ว แต่จำเลยที่ 2 ไม่ใช้สิทธิดังกล่าวนั้น กรณีดังกล่าวเป็นเพียงขั้นตอนในการคัดค้านการออกโฉนดที่ดิน ยังไม่เป็นกรณียุติว่าที่ดินดังกล่าวจะไม่ถูกเพิกถอนในภายหลัง จำเลยที่ 1 และที่ 2 ยังคงมีสิทธิฟ้องเป็นคดีแพ่งให้เพิกถอนโฉนดที่ดินแปลงดังกล่าวได้ หากปรากฏว่าโฉนดที่ดินแปลงดังกล่าวออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีจึงยังมีการโต้แย้งเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ประกอบกับจำเลยทั้งสามได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อสำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุดรธานีให้ช่วยเหลือทางคดีความและร้องขอความเป็นธรรมต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ จนกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ลงพื้นที่ทำการสอบสวนว่ามีการออกโฉนดที่ดินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีจึงยังไม่เป็นที่ยุติในทางแพ่งว่า โฉนดที่ดินแปลงดังกล่าวออกโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อย่างไร คดีจึงยังไม่พอฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 มีเจตนากระทำความผิดตามฟ้องโจทก์ จึงพิพากษายกฟ้อง

การดำเนินการดังกล่าวเป็นการอำนวยความยุติธรรมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำให้ประชาชนผู้ด้อยโอกาสได้เข้าถึงพยานหลักฐานในการต่อสู้คดีอย่างเป็นธรรม เพื่อให้ศาลได้พิจารณาพยานหลักฐาน
อย่างรอบด้าน ซึ่งเป็นนโยบายของกระทรวงยุติธรรมและกรมสอบสวนคดีพิเศษที่จะช่วยเหลือประชาชน
ให้ได้รับโอกาสอย่างเสมอภาคและเป็นธรรม และเคารพในคำตัดสินของศาลในทุกระดับชั้น

*********************************************