DSI ลงพื้นที่เชียงใหม่ตรวจยึด/อายัดทรัพย์คดี P miner เพิ่มเติม

เผยแพร่: 13 ก.ย. 2566 18:16 น. ปรับรุง: 14 ก.ย. 2566 16:19 น. เปิดอ่าน 65 ครั้ง  
 

        เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2566 สืบเนื่องจาก พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ  มอบหมายให้ ร้อยตำรวจเอก วิษณุ  ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบนโยบายให้กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ เร่งรัดสืบสวนสอบสวนและติดตามทรัพย์สินเกี่ยวกับคดี P miner

 

        พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ สั่งการให้ พันตรี อรรคริน ลัทธศักดิ์ศิริ รองผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ร้อยตำรวจโท เสฎฐวุฒิ สายป้อง ผู้อำนวยการส่วนคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ 3 พร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 290/2565 สนธิกำลังกับศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 5 กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาคลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สินของเครือข่าย ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี มายเนอร์คริปโตเคอเรนซี่ กรุ๊ป โดยนายกิติกร อินต๊ะ กับพวก ซึ่งได้ร่วมกับพวก หลอกลวงประชาชนทั่วไปให้ร่วมลงทุนในการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล และทำเหมืองขุดบิตคอยน์ โดยจะจ่ายผลตอบแทนให้ในอัตราที่สูงกว่ากฎหมายกำหนด และต่อมาไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนได้ตามที่อ้าง ทำให้ผู้ลงทุนได้รับความเสียหายและแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับผู้กระทำผิดและยึดอายัดทรัพย์ไว้บางส่วน และต่อมาได้มีการสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 290/2565


        ผลการสืบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน ได้มีการอายัดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบเพิ่มเติมหลายรายการ มีรายละเอียด ดังนี้


1. บัญชีเงินฝากประมาณ 30 บัญชี (เดิมเจ้าหน้าที่ตำรวจอายัดไว้ก่อนแล้ว 40 บัญชี)
2. บ้านหรู 5 หลัง พร้อมห้องชุด ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 19 แปลง
3. ยานพาหนะ จำนวน 7 คัน (เดิมเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดไว้ก่อนแล้ว 12 คัน)
4. กรมธรรม์ประกันชีวิต จำนวน 27 กรมธรรม์


        นอกจากนี้ยังพบเงินดิจิทัลอีกจำนวนหนึ่งซึ่งอยู่ระหว่างประสานงาน Binance เพื่ออายัดไว้ตรวจสอบต่อไปรวมมูลค่าทรัพย์สินต้องสงสัยที่อายัดเพิ่มเติมทั้งสิ้น ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จะได้ทำการตรวจสอบตามกฎหมายและเรียกเจ้าของทรัพย์สินหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้การชี้แจงในรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง พร้อมส่งทรัพย์สินดังกล่าวไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และจะดำเนินการติดตามยึดอายัดทรัพย์สินของกลุ่มผู้กระทำผิดต่อไป       กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอขอบคุณประชาชนที่ช่วยในการแจ้งเบาะแส ด้วยดีมาโดยตลอด และหากประชาชนยังมีข้อมูลหรือทราบเบาะแสในกรณีดังกล่าว หรือการกระทำความผิดอื่น สามารถแจ้งข้อมูล/เบาะแสได้ที่เว็บไซต์กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือติดต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ที่กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบกรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร. 0 2142 2831 หรือ สายด่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร. 1202 (โทร.ฟรีทั่วประเทศ)

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ