VDO แถลงข่าวการจับกุมขบวนการกระทำความผิดฐานการ ค้ามนุษย์ โดยมีพฤติการณ์ หลอกลวงและบังคับคนไทยไปทำงานในเรือประมง ในน่านน้ำต่างประเทศ

เผยแพร่: 20 ม.ค. 2558 16:14 น. ปรับรุง: 20 ม.ค. 2558 16:14 น. เปิดอ่าน 1170 ครั้ง  
 

              แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหากระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยมีพฤติการณ์หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญคนไทยไปทำงานในเรือประมงในน่านน้ำต่างประเทศ   จากกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวจากสื่อสารมวลชนและจากองค์กรภาคเอกชน (NGO) ว่ามีคนไทยจำนวนมากถูกหลอกลวงและถูกบังคับใช้แรงงานเป็นลูกเรือประมงทำงานในเรือประมงไทยในน่านน้ำของประเทศอินโดนีเซีย นอกจากนี้ยังพบว่าลูกเรือประมงของไทยดังกล่าวหลายคนทนสภาพการบังคับใช้แรงงานไม่ไหวจนต้องหลบหนีจากเรือประมงไปหลบซ่อน พำนักอยู่บนเกาะอำบน ประเทศอินโดนีเซีย ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ ซึ่งเหตุดังกล่าวมีลักษณะการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ นั้น   เมื่อเดือนกันยายน ๒๕๕๗  กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือแรงงานประมงไทยที่ถูกหลอกลวงถูกบังคับให้ไปทำงานในเรือประมงที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีพลตำรวจเอกชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ในขณะนั้น) เข้าร่วมประชุมด้วย ได้พิจารณาแล้วเห็นว่ากรณี ดังกล่าว มีพฤติการณ์การกระทำความผิดที่เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากมีลักษณะเป็นการกระทำความผิดข้ามชาติที่สำคัญ จึงเสนอต่อที่ประชุมขอรับกรณีนี้เป็นคดีพิเศษ และเพื่อให้การทำงานเป็นไปในลักษณะบูรณาการ ที่ประชุมจึงได้ขอให้เจ้าพนักงานตำรวจจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เข้าร่วมทำงานกับคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในคดีนี้ด้วย   เนื่องจากคดีนี้มีการกระทำความผิดส่วนหนึ่งนอกราชอาณาจักร  นางสุวณา  สุวรรณจูฑะ  อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๒๐ ซึ่งต่อมาอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีนี้ และมอบหมายให้พนักงานอัยการมาร่วมทำการสอบสวนด้วยคดีพิเศษนี้ อยู่ระหว่างการสอบสวนโดยศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์กรมสอบสวนคดีพิเศษ รวมทั้งสิ้น ๔ คดี มีผู้เสียหายรวม ๘ คน (เนื่องจากเป็นคดีที่มีผู้เสียหาย ผู้กระทำความผิดและวันเวลาของการกระทำความผิดต่างกัน) จากการสอบสวนพบว่ารูปแบบลักษณะของการกระทำความผิดจะมีกลุ่มแก๊งบุคคลที่จะดักรอหาเหยื่อตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ เช่น บริเวณสถานีรถไฟ สถานีรถประจำทาง โดยมุ่งไปที่กลุ่มบุคคลที่มาจากต่างจังหวัด และกำลังมองหางานทำ โดยจะเข้าไปตีสนิทพูดคุย ชักชวน หลอกว่าจะให้ไปทำงานที่มีรายได้ดีในสถานที่และโรงงานต่าง ๆ และแม้บางรายจะอ้างว่าให้ไปทำงานในเรือประมงก็จะหลอกว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ รายได้ดี เป็นต้น เมื่อบุคคลที่ถูกหลอกลวงหลงเชื่อก็จะนำตัวบุคคลเหล่านั้นไปควบคุมตัวไว้ตามที่พักอาศัยในเขตจังหวัดชายทะเล ก่อนจะนำตัวไปส่งลงเรือประมงต่อไป บางรายมีการไปหลอกลวงผู้เสียหายจากหมู่บ้านในต่างจังหวัด ทางภาคอีสาน จัดทำเอกสารคนประจำเรือปลอม (Seaman Book) และนำตัวส่งไปทำงานในเรือประมงโดยเป็นการเดินทางไปทำงานในเรือประมงนอกน่านน้ำของประเทศไทย ซึ่งต้องทำงานเป็นระยะเวลาหลายปีไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้ รายได้ก็ได้รับเพียงเล็กน้อย และมีการบังคับขู่เข็ญ ทำร้ายร่างกายขณะทำงานอยู่ในเรือประมงด้วย ผู้เสียหายมีทั้งที่เป็นผู้ใหญ่และเป็นเด็กอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี   คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและพนักงานอัยการร่วมสอบสวนได้ร่วมกันสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหากลุ่มแรก ๓ คน ในข้อหากระทำผิดฐานค้ามนุษย์ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังทำให้ผู้อื่นปราศจากอิสรภาพ   โดยเมื่อวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๘ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาดังกล่าวได้ ๒ คน ได้ที่จังหวัดสมุทรสาคร คือ นายมนตรี หรือ ตึ๋ง มัคผล อายุ ๕๓ ปี มีพฤติการณ์เป็นนายหน้าบังคับ หลอกลวงจัดหาคนไปทำงานในเรือประมงในเขตจังหวัดสมุทรสาคร นายภมร หรือ หนู จันทร์โต อายุ ๕๒ ปี เป็นไต้ก๋งหรือกัปตันเรือประมง ซึ่งผู้เสียหายในคดีถูกบังคับให้ทำงานบนเรือ ผู้ต้องหาตามหมายจับรายที่ ๓ (ขอปกปิดชื่อ) อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวคาดว่าอยู่ในต่างประเทศ  การเข้าตรวจค้นจับกุมดังกล่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษได้สนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อประโยชน์ในการรวบรวมพยานหลักฐานและขยายผลการสอบสวนติดตามยึดทรัพย์สินผู้กระทำความผิด เนื่องจากคดีพิเศษนี้เป็นคดีสำคัญอยู่ในความสนใจของประชาชนสื่อมวลชนและหน่วยงานต่างประเทศ รัฐบาลได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง โดยในส่วนของกระทรวงยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษรับผิดชอบในการบังคับใช้กฎหมายและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวน  คดีพิเศษ จึงได้มอบหมายให้ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์เร่งรัดดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดทั้งขบวนการในทุกคดีที่รับผิดชอบ และคาดว่าจะมีการขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้กระทำความผิดเพิ่มเติมอีกในเร็ว ๆ นี้ 

 

 

http://youtu.be/XBya2jzCm3E

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ