DSI จับกุมตัวผู้ต้องหาบัญชีม้า คดีพนันออนไลน์เครือข่ายแม่มนต์ได้อีกราย
เผยแพร่: 9 พ.ย. 2567 19:26 น. ปรับรุง: 9 พ.ย. 2567 20:16 น. เปิดอ่าน 124 ครั้งวันนี้ (วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567) เวลาประมาณ 7.50 น. ชุดปฏิบัติการที่ 2 ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ภายใต้การอำนวยการของ นายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ได้ร่วมกันจับกุม นายชะโรม(สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1916/2567 ลงวันที่ 26 เมษายน 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันเข้าถึงบัญชีธนาคารของบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ของตน ร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบายล่อช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ร่วมกันฟอกเงิน โดยเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหา ได้ที่บริเวณหน้าบ้านในตำบลลาดทิพรส อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา รวมถึงแจ้งว่า ต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับและควบคุมตัวจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ให้ผู้ต้องหาได้รับทราบแล้ว ทั้งนี้ได้แจ้งพนักงานอัยการจังหวัดนครสวรรค์ และนายอำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ตามและได้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว (ปท.1) ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 เรียบร้อยแล้ว จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหานำตัวมาส่งมอบให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ผู้รับผิดชอบคดีดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 76/2566 ของกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ โดยนายชะโรม (ผู้ต้องหา) มีพฤติการณ์ เปิดบัญชีม้ารับโอนเงินจากผู้ที่เข้ามาเล่นเว็บพนันออนไลน์การพนันออนไลน์ได้ (เครือข่ายแม่มนต์) มีเงินทุนหมุนเวียนกว่า 5 พันล้านบาทโดยปัจจุบันมีผู้ต้องหาถูกจับกุมตัวแล้ว รวม 23 ราย จากทั้งหมด 38 ราย ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป
ทั้งนี้ การดำเนินการในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีพิเศษ เป็นไปตามข้อสั่งการของ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่กำหนดให้ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ซึ่งเป็นหน่วยงานขึ้นตรงการบังคับบัญชาจัดชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยเฉพาะหมายจับที่ใกล้ขาดอายุความ เพื่อนำตัวผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดที่ยังหลบหนี เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป