DSI ติดตามยึดรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย รวมยึดแล้ว 29 คัน จากทั้งหมด 35 คัน

เผยแพร่: 22 ก.พ. 2566 17:29 น. ปรับรุง: 23 ก.พ. 2566 13:53 น. เปิดอ่าน 991 ครั้ง  
 

DSI ติดตามยึดรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย 
รวมยึดแล้ว 29 คัน จากทั้งหมด 35 คัน


         ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ  ได้รับคำร้องขอความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา (MLAT) จากหน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมแห่งชาติ จากประเทศอังกฤษ (NCA : National Crime Agency) ให้ทำการสืบสวน กรณี ขบวนการโจรกรรมรถยนต์ราคาสูงจากประเทศอังกฤษ 35 คัน และนำเข้ามาในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ซึ่งมีราคาที่ประเทศอังกฤษ ประมาณ 2,400,000 ปอนด์สเตอร์ลิง เทียบเงินไทยมากกว่า 100 ล้านบาท โดยได้รับเป็นคดีพิเศษที่ 78/2561 นั้น

        เนื่องจากคดีดังกล่าวมีความเกี่ยวเนื่องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเป็นคดีที่กระทรวงยุติธรรมให้ความสำคัญ ตรงตามนโยบายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และพันตำรวจตรี สุริยา  สิงหกมล  รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ  โดยพันตำรวจโท พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน จึงได้เร่งรัดติดตามการสืบสวนสอบสวนในคดีนี้มาโดยตลอด รวมถึงการเร่งรัดการติดตามรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมทั้ง 35 คัน ดังกล่าวมาเป็นของกลางในคดี  เพื่อนำส่งให้กับเจ้าของที่แท้จริงที่ประเทศอังกฤษ  ซึ่งที่ผ่านมากรมสอบสวนคดีพิเศษสามารถติดตามยึดรถยนต์มาเป็นของกลางได้แล้ว 27 คัน

       ต่อมา ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 พันตำรวจโท อานนท์  อุนทริจันทร์  ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและคดีว่าด้วยการเล่นแชร์  พันตำรวจโท นิรุติ  พัฒนรัฐ  พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ เลขานุการคณะพนักงานสอบสวน และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้นำหมายค้นจากศาลอาญาเข้าทำการตรวจค้นโชว์รูมรถยนต์แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร และสามารถตรวจยึดรถยนต์ยี่ห้อ Porsche รุ่น Cayenne  จำนวน 1 คัน และเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 ได้นำหมายค้นจากศาลอาญาเข้าทำการตรวจค้นคอนโดมิเนียมใจกลางกรุงเทพมหานคร และสามารถตรวจยึดรถยนต์ยี่ห้อ MINI Cooper ได้อีก 1 คัน  ซึ่งทั้งสองคันดังกล่าวเป็นรถยนต์ที่มียี่ห้อ รุ่น หมายเลขตัวรถ และหมายเลขเครื่องยนต์ ตรงตามบัญชีรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษ  ทั้งนี้ ในการตรวจค้นดังกล่าวได้ชี้แจงรายละเอียดและเหตุผลความจำเป็นที่ต้องตรวจยึดรถยนต์ทั้งสองคัน ให้ผู้ครอบครองรถยนต์ทราบ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ครอบครองรถเป็นอย่างดีและยินยอมให้ตรวจยึดรถยนต์ทั้งสองคัน  คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จึงนำมาเก็บรักษาไว้ที่อาคารจอดรถของกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป
        จากรถยนต์จำนวน 35 คัน ที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้สืบสวนติดตามและยึดรถยนต์มาเป็นของกลางในคดีนี้ได้แล้ว 29 คัน ยังคงเหลืออีก 6 คันที่อยู่ระหว่างการสืบสวน โดยจะได้เร่งรัดติดตามมาดำเนินการต่อไป   ทั้งนี้ หากมีพยานหลักฐานว่าผู้ครอบครองรายใด ที่ทราบเหตุแห่งการกระทำความผิดแล้วได้นำรถไปซุกซ่อนหรือทำลาย ก็จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดทุกรายต่อไป

 

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ