อธิบดี DSI มีความเห็นควรสั่งฟ้อง ผู้ต้องหา บริษัท Financial.org ชักชวนให้ลงทุนเงินดิจิทัล (FOIN) มูลค่าความเสียหาย 137,409,385.54 บาท
เผยแพร่: 22 ก.ย. 2566 13:58 น. ปรับรุง: 22 ก.ย. 2566 14:21 น. เปิดอ่าน 46 ครั้งตามที่กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ทำการสอบสวนคดีพิเศษที่ 55/2563
กรณี กลุ่มบุคคลได้โฆษณาชักชวนให้ประชาชนลงทุนกับบริษัท Financial.org ผ่านทางเว็บไซต์ http://www.financial.org โดยอ้างว่าจดทะเบียนที่ประเทศอังกฤษ มีสำนักงานหลายสาขาในต่างประเทศ เช่น ประเทศดูไบ ประเทศฟิลิปปินส์ และไต้หวัน มี Mr. Arnaud Georges เป็นประธานบริษัทฯ บริษัทมีการลงทุนในตลาดหุ้น เทรดหุ้นบลูชิพ (Blue Chip Stocks) หรือหุ้นที่มีมูลค่าสูงของสหรัฐอเมริกา โดยใช้ระบบ AI TRADE กำหนดแผนการลงทุนขั้นต่ำ 3,000 - 10,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (แล้วแต่ช่วงเวลาการลงทุน) และเสนอผลตอบแทนร้อยละ 6 - 8 ต่อเดือน จากจำนวนเงินลงทุนครั้งแรก (ประมาณร้อยละ 96 ต่อปี) และจะคืนเงินทุนให้ร้อยละ 8 ต่อเดือน (รวมรับคืนร้อยละ 16 ต่อเดือน) กำหนดลงทุน 12 เดือน การจ่ายผลตอบแทนเป็นเงินสกุล USD และ USC (เป็นเงินสกุลดิจิทัลที่บริษัทอ้างอิง) ต่อมาบริษัทฯ ปิดปรับปรุงเว็บไซต์ หยุดจ่ายเงินปันผล โดยอ้างว่าล้างหุ้นในกระดานเทรด และแปลงเงินสกุล USD และ USC เป็นเงินสกุลดิจิทัล FOIN
เข้าสู่ตลาดแลกเปลี่ยน ซึ่งมีการดำเนินการภายใต้สกุลเงินดังกล่าวประมาณเดือนธันวาคม 2562 เว็บไซต์ของบริษัทดังกล่าวได้ปิดตัวลง ตรวจสอบบริษัท Financial.org ไม่พบการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลทั้งในประเทศ
และต่างประเทศแต่อย่างใด มีผู้เสียหายที่หลงเชื่อนำเงินมาลงทุน จำนวน 147 ราย มูลค่าความเสียหาย 37,409,385.54 บาท
บัดนี้ การสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ทางคดีมีพยานหลักฐานพอฟ้อง โดยอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีความเห็นควรสั่งฟ้อง ผู้ต้องหา จำนวน 10 คน ในความผิดฐาน “ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงร่วมกันนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” อันเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ตามมาตรา 4 มาตรา 5 ประกอบมาตรา 12 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343 ประกอบมาตรา 341 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 14 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 และมาตรา 91 และขอให้พนักงานอัยการร้องขอต่อศาลให้เรียกทรัพย์สินและเงินต้นหรือราคาแทนผู้เสียหาย จากผู้ต้องหาทั้ง 10 ราย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 43 และพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 9
โดยพันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ได้มอบหมายให้ นางสาวปริมณ์
สาริยา ผู้อำนวยการส่วนคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ 2 และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ นำสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษ จำนวน 32 แฟ้ม จำนวน 10,352 แผ่น พร้อมตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานอัยการพิเศษ สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ในวันที่ 21 กันยายน 2566 เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป