DSI จับกุมตัวผู้ต้องหากระทำความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนัน เอาทรัพย์สินกันทางอิเล็กทรอนิกส์ (พนันออนไลน์) และร่วมกันฟอกเงิน
เผยแพร่: 5 เม.ย. 2566 9:05 น. ปรับรุง: 24 เม.ย. 2566 11:10 น. เปิดอ่าน 2023 ครั้ง EN
DSI จับกุมตัวผู้ต้องหากระทำความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนัน
เอาทรัพย์สินกันทางอิเล็กทรอนิกส์ (พนันออนไลน์) และร่วมกันฟอกเงิน
ตามนโยบายของ พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้เร่งรัดดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีพิเศษ เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย โดยนายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าวจับกุมผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 288/2565 ซึ่งต้องหาว่า ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันเอาทรัพย์สินทางอิเล็กทรอนิกส์ (พนันออนไลน์) โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5 ตามหมายจับศาลอาญาที่ 636/2566
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2566 เวลาประมาณ 11.00 น. นายวุฒิไกร ศรีธวัช ณ อยุธยา ผู้อำนวยการส่วนสะกดรอยและการข่าว พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการที่ 3 ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ได้จับกุม นายอุทัย วงศ์กันยา อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 288/2565 ตามหมายจับศาลอาญาที่ 636/2566 ลงวันที่ 8 มีนาคม 2566 โดยชุดปฏิบัติการที่ 3 ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ได้ดำเนินการสืบสวนทราบว่า นายอุทัย วงศ์กันยา ผู้ต้องหา จะมาปรากฏตัวที่วัดสุวรรณคีรี แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เมื่อพบตัว นายอุทัย วงศ์กันยา จึงได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่และแสดงหมายจับศาลอาญาฯ พร้อมทั้ง อ่านหมายจับศาลอาญาให้ผู้ต้องหาฟัง โดยผู้ต้องหาเข้าใจข้อหาโดยตลอด และยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และไม่เคยถูกจับตามหมายนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ได้แจ้งสิทธิให้ นายอุทัย วงศ์กันยา ทราบตามกฎหมาย และได้ควบคุมตัว ส่งมอบให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
คดีพิเศษดังกล่าว สืบเนื่องจาก ได้มีหน่วยงานรัฐ ส่งเรื่องเว็บพนันออนไลน์ ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดซึ่งเป็นกลุ่มขบวนการบัญชีม้าจำนวนมาก ทั้งที่รับจ้างเปิดบัญชี และถูกหลอกให้เปิดบัญชี เพื่อใช้ในการฟอกเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดอื่น ๆ โดยมีมูลค่าความเสียหาย รวม ประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยศูนย์คดียาเสพติด ได้ดำเนินการสืบสวนเส้นทางการเงิน จนนำไปสู่การพบการกระทำความผิดของ นายอุทัย วงศ์กันยา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการดังกล่าว