ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ ขอบคุณ อธิบดี DSI กรณีแจ้งข้อกล่าวหา อดีตผู้บริหารสหกรณ์ฯ กับพวก ฐานฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน

เผยแพร่: 27 ธ.ค. 2564 18:04 น. ปรับรุง: 27 ธ.ค. 2564 18:04 น. เปิดอ่าน 1667 ครั้ง  
 

ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ ขอบคุณ อธิบดี DSI 
กรณีแจ้งข้อกล่าวหา อดีตผู้บริหารสหกรณ์ฯ กับพวก ฐานฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน

วันที่ 27 ธันวาคม 2564  นายทวีเดช จุฬคุปต์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด เดินทางเข้าพบ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อแสดงความขอบคุณ จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผล จนกระทั่งได้แจ้งข้อกล่าวหากับอดีตผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด กับพวก รวม 18 ราย ฐาน “ร่วมกันฟอกเงิน” และ/หรือ “ฟอกเงิน” และฐาน “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน” ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินคดีต่อผู้ต้องหา และสามารถเยียวยาและคืนทรัพย์สินให้กับสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด ยังผลให้สามารถบริหารจัดการต่อไปได้ รวมทั้งสมาชิกสหกรณ์ฯ อีก 6,000 ราย สามารถได้รับค่าหุ้นคืน

กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดย ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทางอาญา ได้ดำเนินการกับผู้กระทำความผิดทางอาญา กรณีพบการทุจริตนำเงินออกจากบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด ไปเปลี่ยนสภาพแห่งตัวทรัพย์ เพื่อซุกซ่อน ปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สิน หรือกระทำด้วยประการใด ๆ เพื่อปกปิด หรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มา หรือได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สินโดยรู้ในขณะที่ได้มา อันเป็นเหตุในการเข้าทำการตรวจยึด/อายัดทรัพย์สิน (คดีพิเศษที่ 21/2564) และได้ใช้อำนาจตามมาตรา 24 (5) พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ในการอายัดทรัพย์สินไว้แล้วรวม 189 รายการ มูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท และต่อมา เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2564 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหากับอดีตผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด กับพวก รวม 18 ราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันฟอกเงิน” และ/หรือ “ฟอกเงิน” ตามมาตรา 5 ประกอบมาตรา 83 และความผิดฐาน “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน” ตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดย นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการให้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการในทุกมิติภายใต้กรอบกฎหมายและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมทั้งให้ขยายผลเร่งรัดติดตามทรัพย์สิน ตลอดจนบุคคลที่เกี่ยวข้อง มาดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อเยียวยาและคืนทรัพย์สินให้กับสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด และได้ดำเนินการเชิงบูรณาการร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ควบคู่กันไป เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย และสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชน ส่งผลสัมฤทธิ์ในทางปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 อย่างต่อเนื่อง และเด็ดขาด

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ