DSI พบเส้นทางการเงินต้องสงสัยคดีฟอกเงิน Forex-3D เร่งออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง

เผยแพร่: 21 ก.ค. 2566 16:06 น. ปรับรุง: 21 ก.ค. 2566 16:31 น. เปิดอ่าน 395 ครั้ง  
 

DSI พบเส้นทางการเงินต้องสงสัยคดีฟอกเงิน Forex-3D 
เร่งออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง

ด้วยกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ มีการสอบสวนดำเนินคดีพิเศษที่ 42/2566 กรณีในความผิดฐานฟอกเงินและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง สืบเนื่องจากการกระทำความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 กรณีการชักชวนผ่านทางเฟซบุ๊กชื่อ Forex-3D และบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ Apirak Krub (นายอภิรักษ์ โกฎธิ) ให้ลงทุนนำเงินไปซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่าง ๆ (Forex) โดยเสนอผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 60 - 80 ของเงินผลกำไรที่ได้จากการเทรดฟอเร็กซ์และประกันเงินต้นที่ร่วมลงทุนร้อยละ 100 ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทางการสอบสวนพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกลุ่มดารานักแสดง และดีเจ พร้อมผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์เบื้องต้น จำนวน 8 คน ร้อยตำรวจโท เสฎฐวุฒิ สายป้อง ผู้อำนวยการส่วนคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ 3 ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบสำนวนการสอบสวน ได้รายงานต่อ พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ทราบและเห็นชอบให้ออกหมายเรียกบุคคลดังกล่าวมาให้ข้อเท็จจริงต่อไป


กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทำการสอบสวนในความผิดฐานฟอกเงินที่เกี่ยวกับกรณี Forex-3D คดีแรก เป็นคดีพิเศษที่ 36/2563 มูลค่าความเสียหาย 325,497,221.11 บาท ซึ่งมีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาประกอบด้วย นายอภิรักษ์ โกฎธิ กับพวก รวม 9 คน และส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการแล้ว โดยถือเป็นคดีฟอกเงิน Forex-3D ภาค 1 ต่อมาปรากฏข้อมูลการข่าวว่ายังมีบุคคลที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำต่อทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าวที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี ไม่ว่าเป็นการโอน รับโอน หรือเปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สิน กระทำการใด ๆ เพื่อปกปิดอำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มา แหล่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใด ๆ รวมไปถึงการได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สินโดยรู้ในขณะได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สินนั้นว่าเป็นทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ซึ่งอาจเป็นความผิดอาญาฐานฟอกเงิน ที่มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงรับเป็นคดีพิเศษที่ 42/2566 โดยถือเป็นคดีฟอกเงิน Forex-3D ภาค 2 ซึ่งการออกหมายเรียกนี้ เป็นการเชิญมาให้ข้อเท็จจริงถึงนิติกรรมที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินที่ตรวจพบว่ามีที่มาอย่างไร และประกอบกับพยานหลักฐานอื่นที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษรวบรวมไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อประกอบการสืบสวนสอบสวนต่อไป


“กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ขอเรียนว่าแชร์ลูกโซ่หรือการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนเป็นภัยทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งรัฐบาลกำหนดเป็นวาระแห่งชาติในการป้องกันปราบปราม และเป็นนโยบายสำคัญของพันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่มอบหมายให้กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบใช้มาตรการเชิงรุกในการปราบปราม เน้นยึดทรัพย์เพื่อตัดวงจรการกระทำผิด 

 

ปัจจุบันมีการหลอกลวงประชาชนเพื่อให้ลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ โดยเสนอผลตอบแทนสูงจำนวนมาก และมักใช้รูปแบบการลงทุนที่กล่าวอ้างถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น การใช้ AI Artificial Intelligence หรือระบบปัญญาประดิษฐ์ มาช่วยในการตัดสินใจลงทุน มีการรับประกันเงินลงทุนร้อยละร้อย เป็นการลงทุนที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกับต่างประเทศ มีการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้แทนเงินตราจริงในการลงทุนเพื่อให้ดูว่าเป็นเรื่องทันสมัย ขณะเดียวกันก็ทำให้ยากแก่การทำความเข้าใจของผู้เสียหายทั่วไป และทำให้เกิดกลุ่มผู้กระทำผิดรายใหม่ ๆ ที่เข้ามาทำหน้าที่นายหน้าแปลงเงินตราจริงเป็นเงินดิจิทัลทำให้การกระทำผิดมีความซับซ้อนขึ้น รวมทั้งมีการชักชวนให้ซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศ หรือ FOREX ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยไม่เคยอนุญาตให้เอกชนรายใดดำเนินธุรกิจดังกล่าว และการดำเนินธุรกิจโดยฝ่าฝืนกฎหมาย จะเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ซึ่งสามารถตรวจสอบการอนุญาตเรื่องดังกล่าวได้ที่เว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนในการประเมินความเสี่ยงก่อนการลงทุน กรมมอบสวนคดีพิเศษ โดยกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ได้จัดทำระบบ LINE Official เพื่อตอบคำถามข้อสงสัยในการลงทุนชื่อ“Checkdidsi”โดยสามารถเข้าไปเป็นสมาชิกได้ที่ ที่ LINE > เพิ่มเพื่อน > ค้นหา > @Checkdidsi หรือไปยังเว็บไซต์กรมสอบสวนคดีพิเศษ www.dsi.go.th > ข้อมูลกราฟฟิก ซึ่งจะมีแหล่งให้ข้อมูลความรู้ในเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นภัยสังคมโดยกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ มีความมุ่งมั่นในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวกับธุรกิจการเงินนอกระบบอย่างมืออาชีพ มีวิสัยทัศน์ และใส่ใจให้บริการ” พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กล่าว

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ