DSI จับ 2 ผู้ต้องหา คดีพิเศษ 127/2566 (หมูเถื่อน) พบพฤติการณ์ใช้นอมินีนำเข้าก่อนโอนให้กลุ่มผู้ต้องหาเพื่อใช้สิทธิลดภาษีโดยมิชอบ แจ้ง 5 ข้อหาหนัก
เผยแพร่: 1 มี.ค. 2567 10:44 น. ปรับรุง: 1 มี.ค. 2567 10:48 น. เปิดอ่าน 1134 ครั้ง วันนี้ (พฤหัสบดีที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567) พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเกี่ยวกับการนำเข้าชิ้นส่วนซากสัตว์ประเภท สุกร ไก่และเนื้อโดยผิดกฎหมาย ได้สั่งการให้ พันตำรวจตรี ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะรองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ประสานศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ภายใต้การอำนวยการของ นายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าวทำการจับกุมผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 127/2566 จำนวน 5 คน โดยเวลาประมาณ 09.50 น. ชุดปฏิบัติการที่ 4ได้ดำเนินการจับกุมนายพลภัทร (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 773/2567 ลงวันที่27 กุมภาพันธ์ 2567 ได้ที่บริเวณวัดเสนีวงศ์ ตำบลทวีวัฒนา อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี และต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. นายวุฒิไกร ศรีธวัช ณ อยุธยา ผู้อำนวยการส่วนสะกดรอยและการข่าว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สืบสวนชุดปฏิบัติการที่ 1 ของศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ดำเนินการจับกุมนายประกร (ขอสงวนนามสกุล) กรรมการ บริษัท พีซี ฟูดส์ เซ็นเตอร์ จำกัด และในฐานะส่วนตัว ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 769/2567ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 ได้ที่บริเวณกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ นำตัวส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ คดีพิเศษที่ 127/2567 ดำเนินคดี และประสานให้ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าวดำเนินการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีดังกล่าว อีก 3 ราย
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินคดี กรณีนำเข้าชิ้นส่วนซากสัตว์ประเภท สุกร ไก่และเนื้อ เป็นคดีพิเศษที่ 127/2566 และทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาไปแล้ว จำนวน 5 คน ต่อมาได้ขยายผลพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดอีก จึงได้ทำการตรวจค้นบริษัทในเขตปลอดอากร PM FREE ZONE คือบริษัท พีซี ฟู้ดส์ เซ็นเตอร์ จำกัด และบริษัทในเครือ ผลการตรวจค้นพบว่า ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่31 มกราคม 2567 ได้มีการนำสินค้าประเภทซากสัตว์ประเภทสุกร เครื่องในโค ตีนไก่ เข้ามาในประเทศไทยรวมจำนวน 3,469 ตู้ โดยให้บริษัทที่เป็นเครือข่ายฯ นำเข้าแทน และอ้างว่าได้โอนให้กันเพื่อใช้สิทธิด้านภาษีอากรขาเข้าและเมื่อนำเข้ามาแล้วมิได้ทำการผลิตใหม่ตามที่กรมศุลกากรกำหนด และบริษัทใช้สิทธิขอลดอากรทำให้เกิดความเสียหายด้านภาษีศุลกากร จำนวน 1,387,600,000 บาท ก่อให้เกิดความเสียหายด้านเศรษฐกิจเป็นวงกว้างทั่วประเทศ รวมทั้งพบบัญชีการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเข้าตู้สินค้า คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 5 คน ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับแล้วเมื่อ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 และมีการจับกุมได้ในวันนี้ 2 ราย ทั้งนี้ เจ้าพนักงานชุดจับกุมทั้ง 2 ชุด ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าผู้ต้องหาได้กระทำผิดฐานโดยหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากรโดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้น ๆ โดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้น ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช 2560 และนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย ตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 ฐานฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ฐานเป็นอั้งยี่ตามประมวลกฎหมายอาญา และสิทธิตามประมวลกฎหมายให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้รับทราบแล้ว รวมทั้งได้แจ้งไปยังพนักงานอัยการและสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง กรณีในเขตกรุงเทพมหานคร และได้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว (ปท.1) ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 และควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษผู้รับผิดชอบสำนวนคดีพิเศษ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว