DSI แถลงความคืบหน้ากรณีหุ้น STARK (คดีพิเศษที่ 57/2566)

เผยแพร่: 7 ก.ค. 2566 16:17 น. ปรับรุง: 11 ก.ค. 2566 10:36 น. เปิดอ่าน 4459 ครั้ง   EN
 

วันนี้ (วันศุกร์ที่ 7 กรกฎาคม 2566) เวลา 14.00 น. พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวน
คดีพิเศษ มอบหมายให้ นางสาวพิทยาภรณ์ ชูรัตน์ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงความคืบหน้าคดีทุจริตหุ้น STARK (กรณี บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร้องทุกข์กล่าวโทษอดีตผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้องในความผิดตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และความผิดอาญาอื่นที่อาจเกี่ยวข้องกัน คดีพิเศษที่ 57/2566) ณ ห้องรับรองกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ อาคารเอ

ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับคดีการทุจริตในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นคดีพิเศษที่ 57/2566 เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2566 กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานโดยการออกหมายเรียกพยานที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ ได้แก่ บริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส เอบีเอเอส จำกัด, บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ ที่ปรึกษา จำกัด ซึ่งเป็นผู้สอบบัญชี และพนักงานภายในบริษัท รวมถึงได้มีการออกหมายจับนายชนินทร์ เย็นสุดใจ เนื่องจากมีเหตุอันควรเชื่อว่าได้หลบหนีจากการติดตามของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และมีการออกหมายเรียก นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหา

ต่อมาคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ยื่นคำร้องขอหมายค้นต่อศาลอาญารวมจำนวน 15 จุด เพื่อค้นหาพยานหลักฐานประกอบการสอบสวน รวมถึงเพื่อพบและยึดสิ่งของซึ่งมีไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยผิดกฎหมาย โดยเป็นการเข้าตรวจค้นบริษัทจำนวน 5 จุด ได้แก่ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท ทีมเอ โฮลดิ้ง จำกัด, บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด, บริษัท ไทย เคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่พบการทำธุรกรรมในทางบัญชีและการเงินที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก และเข้าตรวจค้นบ้านซึ่งเป็นที่พักอาศัยและที่มีชื่อของผู้ต้องสงสัยและผู้ที่มีความเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ครอบครองรวมจำนวน 10 จุด 

ผลการตรวจค้น คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้พบและยึดสิ่งของที่จะใช้เป็นพยานหลักฐานในการสอบสวนทั้งเอกสารการทำธุรกรรมต่าง ๆ ในบริษัท สตาร์คฯ และบริษัทในเครือ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่จัดเก็บไว้ในรูปแบบไฟล์คอมพิวเตอร์ และเอกสารหลักฐานพยานวัตถุอื่น ๆ ซึ่งเป็นพยานหลักฐานที่จะประกอบการสอบสวน และพิสูจน์ถึงพฤติการณ์อันมีลักษณะทุจริต รวมถึงขยายผลไปถึงบุคคลอื่นที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด รวมทั้งได้พบและยึดเงินสด อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องซึ่งเชื่อได้ว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดไว้เพื่อทำการตรวจสอบ ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนและขยายผลการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป

 

1.บริษัท สตาร์ค

2.บริษัทเอเชีย

3.บริษัทMM

4.บ้านชนินทร์

5.บจ ไทยเคเบิ้ล สมุทรสาคร

6.บจ เฟ้ลป์ ดอดจ์ สมุทรปราการ

7.คอนโดผู้ถูกกล่าวหา

TIME LINK

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ