"DSI พร้อมจะพิสูจน์ตัวเองให้สังคมเกิดความเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่"

เมื่อวานนี้ (10 ตุลาคม 2566) พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และผู้บริหารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้การต้อนรับ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ได้มาตรวจเยี่ยมและรับฟังรายงานผลการปฏิบัติงานด้านคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ณ ห้องประชุม กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ในการนี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้สั่งการกำชับและให้แนวทางความคิดในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
DSI ต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญ “นำหน้าอาชญากรผู้ก่ออาชญากรรมให้ได้” โดยต้องวิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์อาชญากรรมคดีอุบัติใหม่ที่จะเกิดขึ้น พร้อมกำหนดยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมกับบริบทองค์กร สอดคล้องกับนโยบายและเท่าทันต่อสถานการณ์ ได้อย่างมีคุณค่า มิใช่เป็นเพียงแค่แผนปฏิบัติราชการปกติเท่านั้น
ใช้ พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ เป็นเครื่องมือสนับสนุน ส่งเสริม เติมเต็ม “การอำนวยความยุติธรรมและลดความเหลื่อมล้ำ” ตามวิสัยทัศน์ของกระทรวงยุติธรรม
ความยุติธรรมเป็นสิ่งสะท้อนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ต้องเอาศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เป็นที่ตั้งแล้วจึงใช้หลักกฎหมายมาพิจารณา และต้องใช้เพื่อเป็นเครื่องมือแก้ปัญหาความขัดแย้ง ความไม่เป็นธรรมในสังคม
ความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมและต้องมีช่องทางในการสื่อสารกับประชาชน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการอำนวยความยุติธรรม
พ.ร.บ.อุ้มหายฯ (พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. ๒๕๖๕ ทุกหน่วยให้ DSI ทำ นั่นเพราะ DSI มีการดำเนินการในคดีประเภทนี้อย่างมีประสิทธิภาพ (มีต้นทุนมาตลอดเวลาตั้งแต่ก่อตั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ)
โดย พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ให้คำมั่นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมว่า
"DSI พร้อมจะพิสูจน์ตัวเองให้สังคมเกิดความเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่" และจะดำเนินการนโยบาย “กระบวนการยุติธรรมที่เข้าถึงได้ นำมาซึ่งความเชื่อมั่น ศรัทธาของประชาชน”