DSI สนธิกำลัง ด่านศุลกากรปัตตานี ปศุสัตว์จังหวัดปัตตานี สถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานี และนิติวิทยาศาสตร์จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตรวจค้นโกดังเก็บเนื้อวัวลักลอบนำเข้าโดยผิดกฎหมาย

เผยแพร่: 17 พ.ค. 2566 18:45 น. ปรับรุง: 17 พ.ค. 2566 18:45 น. เปิดอ่าน 590 ครั้ง  
 

DSI สนธิกำลัง ด่านศุลกากรปัตตานี ปศุสัตว์จังหวัดปัตตานี สถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานี และนิติวิทยาศาสตร์จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตรวจค้นโกดังเก็บเนื้อวัวลักลอบนำเข้าโดยผิดกฎหมาย

 วานนี้ (วันอังคารที่ 16 พฤษภาคม 2566) พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร้อยตำรวจเอก ปิยะ รักสกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และพันตำรวจตรี จตุพล บงกชมาศ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค มอบหมายให้ นายชยพล สายทวี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ สนธิกำลังกับหน่วยงานในพื้นที่ ๆ เกี่ยวข้อง ทำการตรวจค้นโกดังของผู้ประกอบการเนื้อวัวในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ซึ่งพบว่ามีพฤติการณ์ลักลอบนำเข้าและจำหน่ายเนื้อวัวโดยหลีกเลี่ยงภาษี

 

  กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษได้สืบสวนติดตามพฤติการณ์กลุ่มขบวนการลักลอบนำเข้าและจำหน่ายเนื้อวัวรายนี้ ทราบว่ามีการลักลอบนำเข้าเนื้อวัวจากประเทศมาเลเซียผ่านช่องทางธรรมชาติ แม่น้ำสุไหงโก-ลก บริเวณตำบลโฆษิต อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ลำเลียงขึ้นใส่รถกระบะบรรทุกและส่งต่อไปจำหน่ายให้กับกลุ่มผู้ค้าเนื้อวัวหลีกเลี่ยงภาษีในพื้นที่จังหวัดปัตตานี และจังหวัดยะลาโดยมีการนำไปเก็บไว้ในโกดังติดป้ายว่า อิควาน 99 บ้านเลขที่ 114 ถนนฤาดี ตำบลอาเนาะรู อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี จึงได้บูรณาการสนธิกำลังกับด่านศุลกากรปัตตานี ปศุสัตว์จังหวัดปัตตานี สถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานี อำเภอเมืองปัตตานี และศูนย์ปฏิบัติกานิติวิทยาศาสตร์จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว เมื่อวันอังคารที่ 16 พฤษภาคม 2566 เวลาประมาณ 20.00 น. ผลการตรวจค้น พบผู้กระทำความผิดขณะกำลังลำเลียงเนื้อจากรถกระบะบรรทุกเข้าไปเก็บในโกดัง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว ทำการตรวจค้นและจับกุมผู้ทำหน้าที่ขับรถกระบะบรรทุก ผู้ที่นั่งมาในรถ และผู้ครอบครองสถานที่โกดังดังกล่าว พร้อมของกลางเนื้อวัว เนื้อควาย ตับ ที่มีต้นทางจากประเทศอินเดีย และเนื้อวัวที่มีต้นทางจากประเทศบราซิล ซึ่งบรรทุกอยู่หลังรถกระบะจำนวน 3.7 ตัน และที่เก็บอยู่ในบริเวณโกดังอีกจำนวนประมาณ 4 ตัน 

 

  ทั้งนี้ พฤติการณ์การกระทำความผิดดังกล่าว อาจเข้าข่ายเป็นความผิดฐานนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือฐานรับไว้ด้วยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่านำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ความผิดฐานนำเข้าสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงอาจเข้าข่ายเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งคณะพนักงานสืบสวน ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะได้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อขยายผลไปยังตัวการสำคัญของขบวนการดังกล่าว เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ จะได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวให้ครอบคลุมในทุกมิติต่อไป.

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ