ศาลอาญาพิพากษาลงโทษจำคุกคดีโมเดลลิ่งละเมิดทางเพศเด็ก 121 ปี 223 เดือน

เผยแพร่: 12 ก.ค. 2566 20:48 น. ปรับรุง: 12 ก.ค. 2566 20:48 น. เปิดอ่าน 402 ครั้ง  
 

ศาลอาญาพิพากษาลงโทษจำคุกคดีโมเดลลิ่งละเมิดทางเพศเด็ก 121 ปี 223 เดือน

          เมื่อปี พ.ศ. 2560 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานองค์การตำรวจสากล
หรือ Interpol เกี่ยวกับเว็บไซต์ขายสื่อลามกอนาจารเด็กในประเทศไทย ภายใต้ปฏิบัติการ Black Wrist 
กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ จึงได้รับเรื่องไว้ทำการสืบสวน พบเบาะแสผู้ต้องสงสัยทั้งในประเทศไทยและประเทศออสเตรเลีย และได้สนธิกำลังกับหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้องตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาในประเทศไทยและประเทศออสเตรเลียในเดือนมกราคม 2561 จนได้มีการช่วยเหลือเด็กที่เป็นผู้เสียหายในประเทศไทยจำนวนหลายราย เป็นการสืบสวนคู่ขนานระหว่างประเทศ
          ต่อมาในปี พ.ศ. 2562 กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเรื่องจากสำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (Australian Federal Police: AFP) เกี่ยวกับภาพลามกอนาจารเด็กที่พบในวัตถุพยานที่ตรวจยึดมาจากผู้ต้องหาในปฏิบัติการ Blackwrist ที่จับกุมเมื่อปี พ.ศ. 2561 กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศจึงได้ทำการสืบสวน จนสามารถจับกุมตัวบุคคลต่าง ๆ ที่เป็นหนึ่งในเครือข่ายครอบครองภาพอนาจารเด็กได้
          จากการสืบสวนขยายผลพบว่า นายดนุเดช หรือในวงการจัดหานักแสดงรู้จักในชื่อ เนเน่โมเดลลิ่ง 
ซึ่งเป็นโมเดลลิ่งเด็กที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย รับจัดหานักแสดง และนายแบบเด็กให้กับภาพยนตร์ โฆษณา ละคร หรือรายการโทรทัศน์ มีนักแสดงเด็กในสังกัดจำนวนมาก น่าจะเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ภาพลามกอนาจารดังกล่าว ต่อมาในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 จึงได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายดนุเดชฯ ซึ่งใช้เป็นสำนักงานโมเดลลิ่งด้วย ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี และได้ทำการจับกุมตัวนายดนุเดชฯ จากการตรวจค้น 
พบคลังภาพลามกอนาจารเด็กมากกว่า 500,000 ไฟล์ภาพ ซึ่งนับว่าเป็นการได้มาซึ่งภาพลามกอนาจารเด็ก
ที่มากที่สุด และเกี่ยวพันกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กจำนวนหลายพันราย จึงได้ตรวจยึดและนำสื่อลามกอนาจารเด็กมาวิเคราะห์จนสามารถระบุตัวผู้เสียหายจากภาพลามกอนาจารเด็กได้จำนวนหลายราย และได้มีการสืบสวนขยายผลดำเนินคดีไปยังผู้ต้องหารายอื่น ๆ ซึ่งเมื่อเดือนเมษายน 2566 ศาลอาญาธนบุรีได้พิพากษาให้ลงโทษจำคุก 16 ปี และชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหาย และผู้ต้องหาอีกรายหนึ่ง ศาลจังหวัดพิษณุโลกได้มีคำพิพากษาให้พิพากษาลงโทษจำคุก 30 ปี 70 เดือน
​          สำหรับนายดนุเดชฯ นี้ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำคดีขึ้นสู่ศาล ต่อมาพนักงานอัยการได้มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา ในความผิดมากกว่า 60 กรรม และในวันนี้ (วันที่ 12 กรกฎาคม 2566) ศาลได้นัดหมายฟังคำพิพากษา ณ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก โดยพิพากษา รวม 60 กระทง ในความผิดฐานพรากและพาเด็กไปเพื่อการอนาจาร กระทำอนาจาร ชำเรา และพยายามกระทำชำเราเด็ก ครอบครองและส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็ก นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งสื่อลามกอนาจาร จำเลยให้การ
รับสารภาพ ลดเหลือโทษจำคุก รวม 121 ปี 223 เดือน โทษจำคุกให้รับโทษไม่เกินอัตราตามมาตรา 91 ประมวลกฎหมายอาญา พิพากษาจำคุกไม่เกิน 50 ปี และให้ชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ จำนวน 8 ราย 
รวมทั้งสิ้น 2,100,000 บาท
          กรมสอบสวนคดีพิเศษยังคงเดินหน้าขยายผลไปยังผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างประเทศที่ได้ให้การสนับสนุนการสืบสวนสอบสวน ได้แก่ ตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (Australian Federal Police: AFP) สำนักงานสืบสวนความมั่นคงมาตุภูมิแห่งสหรัฐอเมริกา (Homeland Security Investigations: HSI) สำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (Homeland Security Investigation: FBI) และสำนักงานตำรวจนิวซีแลนด์ (New Zealand Police) รวมถึงได้รับการสนับสนุนจากองค์กรเอกชนไม่แสวงกำไรในการดูแลผู้เสียหาย อาทิ องค์การโอเปอเรชั่น อันเดอร์กราวด์ เรลโรด (Operation Underground Railroad: O.U.R.) และองค์กรลิฟต์ อินเตอร์เนชั่นแนล (LIFT International) เป็นต้น
          นอกจากการบังคับใช้กฎหมายด้วยการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาแล้ว สิ่งสำคัญที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ให้ความสำคัญและดำเนินการควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมาย คือ การช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายเด็กทั้งด้านร่างกายและจิตใจ โดยในส่วนนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษมีการประสานความร่วมมือกับแพทย์รามา องค์กรเอกชน
ไม่แสวงผลกำไร เช่น O.U.R. และมูลนิธิเด็กต่าง ๆ จนสามารถช่วยเหลือเด็กที่ตกเป็นเหยื่อได้เป็นจำนวนมาก
          และขอสื่อสารให้พ่อแม่ผู้ปกครองทราบและตระหนักถึงปัญหาละเมิดทางเพศเด็กออนไลน์ ว่าปัจจุบัน
เด็กส่วนใหญ่จำเป็นต้องใช้ชีวิตกับโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้กระทำผิดเข้าถึงตัวเด็กได้โดยตรง ผู้ปกครองควรสนใจสังเกตพฤติกรรมของเด็กอยู่เสมอ เพื่อป้องกันมิให้บุตรหลานตกเป็นเหยื่อ โดยขณะนี้มี Application 
ชื่อว่า Parental Values ซึ่งสามารถโหลดใช้ได้ในระบบแอนดรอยส์ Application ดังกล่าวจะสามารถบล็อกการโทรเข้า-ออก sms ที่ไม่ได้รับอนุญาต และพ่อแม่ผู้ปกครองสามารถตรวจสอบการเข้าเว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ ของบุตรหลานได้ แม้ว่าจะถูกลบการเข้าถึง (History) ไปแล้วก็ตาม
         ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีโครงการ Keep Eyes On ซึ่งร่วมกับ Human Mass สถานศึกษาในกระทรวงศึกษาธิการ และสมาชิกเครือข่าย DSI Station ซึ่งจะเป็นการทำงานในอีกส่วนหนึ่งที่จะช่วยดูแล ป้องกัน มิให้เกิดการละเมิดทางเพศเด็กในอนาคต

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ