ชาวอุดรเฮ DSI ช่วยเหลือคืนสิทธิที่ดินอยู่อาศัย
เผยแพร่: 29 ธ.ค. 2559 14:11 น. ปรับรุง: 29 ธ.ค. 2559 14:11 น. เปิดอ่าน 1266 ครั้งชาวอุดรเฮ DSI ช่วยเหลือคืนสิทธิที่ดินอยู่อาศัย
สืบเนื่องจากชาวบ้านบ้านพรสวรรค์ หมู่ 14 ตำบลหนองนาคำ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี 36 ครัวเรือน ได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ค้นหาความจริงกรณีมีนายทุนออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบทับที่ดินของผู้ร้องกับพวกเนื้อที่ประมาณ 32 ไร่ และนำไปแบ่งแปลงจำนวน 40 แปลง ขายให้กับโครงการสวัสดิการทหารในพื้นที่ จากนั้นผู้ที่ครอบครองต่อมาได้มีการนำโฉนดที่ดินแปลงย่อยมาฟ้องขับไล่ผู้ร้องต่อศาลจังหวัดอุดรธานี บางรายถูกฟ้องถึง 10 คดี จนศาลจังหวัดอุดรธานีได้พิพากษาให้ชาวบ้านออกจากพื้นที่หลายคดี และขณะนี้อยู่ระหว่างอุทธรณ์ ในส่วนที่ยังอยู่ที่ศาลจังหวัดอุดรธานีมีไม่ต่ำกว่า 5 คดี ทำให้ราษฎรในพื้นที่ดังกล่าวไม่มีความมั่นคงในที่อยู่อาศัย
ในการนี้ พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พันตำรวจเอก ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการให้ พันตำรวจโท ประวุธ วงศ์สีนิล ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม เร่งให้ความช่วยเหลือตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และหาพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความจริงในเรื่องนี้ จนกระทั่งได้พิสูจน์ทราบว่า มีการนำเอาหลักฐาน น.ส.3 เลขที่ 2 ซึ่งออกจาก ส.ค.1 เลขที่ 2 ของที่ดินแปลงอื่นมาอ้างออกโฉนดที่ดินเลขที่ 22915 เนื้อที่ 32 ไร่เศษ ทับพื้นที่ที่ชาวบ้านอยู่อาศัยและที่ทำกินจำนวน 36 ครอบครัว โดยมีพยานหลักฐานที่สำคัญเป็นภาพถ่ายทางอากาศที่ระบุว่าพื้นที่พิพาทไม่เคยมีการทำนา แต่หลักฐาน ส.ค.1 ระบุว่าเป็นพื้นที่ทำนา นอกจากนี้ยังมีพยานบุคคลซึ่งเป็นทายาทเจ้าของ ส.ค.1 ชี้ยืนยันถึงตำแหน่งที่ดินแปลงจริงซึ่งปัจจุบันเป็นโฉนดที่ดินเลขที่ 47776 อยู่ห่างจากที่ดินแปลงพิพาทประมาณ 140 เมตร และจากภาพถ่ายทางอากาศได้พบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการทำนาจริง จึงเป็นพยานหลักฐานที่สำคัญที่บ่งบอกได้ว่าการออกโฉนดที่ดินแปลงพิพาทเป็นการออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จึงได้นำพยานหลักฐานดังกล่าวเสนอต่อศาลจังหวัดอุดรธานีเพื่อให้ศาลได้พิจารณาพยานหลักฐานอย่างรอบด้าน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2559 ศาลจังหวัดอุดรธานี ได้มีคำพิพากษาในคดีความแพ่ง หมายเลขดำที่ 2999/2558 คดีระหว่าง นางสาวจุรีรัตน์ อัคนิจ โดย นายนวพล โคตรบุตร ผู้รับมอบอำนาจ โจทก์ นางมะลิ แสนน่าน จำเลย โดยศาลเห็นว่าการออกโฉนดไม่ชอบด้วยกฎหมายและศาลมีอำนาจเพิกถอนโฉนดที่ดินแปลงพิพาทตามประมวลกฎหมายที่ดิน จึงพิพากษายกฟ้อง การพิพากษายกฟ้องในครั้งนี้จะมีผลไปถึงราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว 35 ครอบครัว ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล และบางคดีศาลได้พิจารณาพิพากษาไปแล้ว ก็อาจนำพยานหลักฐานดังกล่าวไปประกอบการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ต่อไป
ความสำเร็จครั้งนี้เป็นการสอดรับกับยุทธศาสตร์การอำนวยความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ ของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ให้ความสำคัญและถือเป็นนโยบายที่จะช่วยเหลือประชาชนให้เกิดความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรมต่อไป
****************************************************************