“ดีเอสไอ” บุกจับทลายเครือข่ายการผลิต และโกดังเก็บสินค้าประเภทเสื้อผ้ากีฬาปลอม ทั่วกรุงเทพ และปริมนฑล รวม ๘ จุด มูลค่าความเสียหายกว่ายี่สิบล้านบาท

เผยแพร่: 8 ส.ค. 2557 11:05 น. ปรับรุง: 8 ส.ค. 2557 11:05 น. เปิดอ่าน 1553 ครั้ง  
 

“ดีเอสไอ” บุกจับทลายเครือข่ายการผลิต และโกดังเก็บสินค้าประเภทเสื้อผ้ากีฬาปลอม ทั่วกรุงเทพ และปริมนฑล รวม ๘ จุด มูลค่าความเสียหายกว่ายี่สิบล้านบาท

 

 

                วันนี้ (วันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๗) เวลา ๑๔.๓๐ น. พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์  อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายเพิ่มพูน พึ่งประสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย นางกรรณิกา ริมโพธิ์เงิน รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา นายจักราคม ลิ่วมโนมนต์ รองผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา และ พ.ต.ท.นิรุติ พัฒนรัฐ ผู้อำนวยการส่วนคดีทรัพย์สินทางปัญญา ๓ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการบุกจับทลายเครือข่ายการผลิต และโกดังเก็บสินค้าประเภทเสื้อผ้ากีฬาปลอมหลายยี่ห้อ โดยมีรายละเอียดการจับกุม ดังนี้

            เมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๗ เวลาประมาณ ๑๐.๓๐ น.เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำโดย    นายจักราคม ลิ่วมโนมนต์ รองผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพนย์สินทางปัญญา พร้อมด้วย พ.ต.ท.นิรุติ พัฒนรัฐ ผู้อำนวยการส่วนคดีทรัพย์สินทางปัญญา ๓ นำกำลังเจ้าหน้าที่สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา เข้าทำการตรวจค้น ๘ จุดด้วยกัน พบของกลางประเภทสินค้าประเภทเสื้อผ้ากีฬาปลอมหลายยี่ห้อ อาทิ ลิเวอร์พูล (LIVERPOOL) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (MANCHESTER UNITED) เชลซี (CHELSEA) อดิดาส (ADIDAS) ไนกี้(NIKE) พูม่า(PUMA) อัมโบร(UMBRO) ฯลฯ จำนวนมาก

          สืบเนื่องจากสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา ได้ทำการสืบสวนพบการกระทำผิดเกี่ยวกับการละเมิดเครื่องหมายการค้าสินค้าประเภทเสื้อผ้ากีฬา ในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพ และจังหวัดนนทบุรี โดยมีลักษณะเป็นขบวนการ ครบวงจร ตั้งแต่ การตัดเย็บ ปัก บรรจุหีบห่อ เพื่อจำหน่ายในประเทศ ตลอดจนถึงส่งออกนอกราชอาณาจักร สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา โดย พ.ต.ท.นิรุติ พัฒนรัฐ ผู้อำนวยการส่วนคดีทรัพย์สินทางปัญญา ๓ จึงได้จัดชุดสืบสวน เข้าทำการสืบสวน เฝ้าจุดสะกดรอย ตลอดจนประสานงานกับบริษัทผู้เสียหาย จนในที่สุดพบว่ามีการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจผลิตสินค้าดังกล่าว จำนวน ๘ จุด โดยเกี่ยวข้องกับขบวนการผลิต ๖ จุด และการจำหน่ายในประเทศอีก ๒ จุด จึงได้วางแผนการตรวจค้นจับกุมดังกล่าว โดยในการปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำหมายค้นของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เข้าทำการตรวจค้น จนสามารถยึดเครื่องจักร เสื้อผ้ากีฬา และวัสดุอุปกรณ์การผลิตเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายที่คำนวณจากของกลางที่ยึดได้กว่า ๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (ยี่สิบล้านบาท) โดยมีรายละเอียด ดังนี้

จุดที่ ๑ บ้านเลขที่ ๙/๘ บางบอน ๕ แยก ๑ แขวง/เขตบางบอน กรุงเทพ ลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียว จุดนี้เป็นสถานที่ตัดเย็บเป็นตัวเสื้อกีฬา และรีดสติกเกอร์บนเสื้อ

จุดที่ ๒ อาคารพาณิชย์เลขที่ ๑๖/๑๙๒ – ๑๙๖ ซอยศิวปรีชา แขวงบางขุนเทียน เขตบางบอน กรุงเทพ  เป็นสถานที่มีเครื่องจักรในการตัดเย็บและปักเครื่องหมายการค้าลงบนเสื้อกีฬา

จุดที่ ๓ บ้านเลขที่ ๘๖/๑๕ หมู่ ๘ ซอบกำนันแม้น ๑๓ แยก ๒๕ ถนนเอกชัย แขวง/เขต
บางบอน กรุงเทพ เป็นสถานที่รีดสติกเกอร์เครื่องหมายการค้า และหมายเลขด้านหลังเสื้อ ลงบนตัวเสื้อ และบรรจุหีบห่อใส่ถุงรอการจำหน่าย

จุดที่ ๔ บ้านเลขที่ ๙๒/๔๑ หมู่ ๘ ซอบกำนันแม้น ๑๓ แยก ๒๕ ถนนเอกชัย แขวง/เขตบางบอน กรุงเทพ เป็นสถานที่เก็บวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต เช่น โลโก้ผ้า ป้ายผ้าติดคอเสื้อ กระดุม และสติกเกอร์

จุดที่ ๕ บ้านเลขที่ ๙๒/๑๕๐ ซอยกำนันแม้น ๑๑ ถนนเอกชัย แขวง/เขตบางบอน กรุงเทพ เป็นจุดที่เก็บสต๊อกสินค้าหลังจากที่ผลิตเสร็จสิ้นแล้ว รอการสั่งของลูกค้า

จุดที่ ๖ บ้านเลขที่ ๕ ซอยกำนันแม้น ๑๑ ถนนเอกชัย แขวง/เขตบางบอน กรุงเทพ  เป็นจุดที่รวบรวมสินค้าที่ผลิตเสร็จแล้ว และมีลูกค้าสั่งเข้ามา ก็จะนำมาตรวจสอบขั้นสุดท้ายก่อนส่งให้กับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ

ซึ่งทั้ง ๖ จุดดังกล่าว สามารถยึดอายัดเครื่องจักรที่ทันสมัยในการผลิตเสื้อผ้ากีฬา ๓ เครื่อง(ราคาประมาณ ๑๐ ล้านบาท) ไว้ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากเครื่องจักรดังกล่าวมีขนาดใหญ่มากไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ , ตรวจยึดเครื่องรีดอัดสติกเกอร์ ๑๐ เครื่อง, เสื้อผ้ากีฬาปลอมเครื่องหมายการค้าต่างๆ ๑๐,๕๓๔ ตัว และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเสื้อกีฬาอีก ๑๐๙,๔๘๓ ชิ้น จึงจับกุมตัว นางสาวอภัสนันท์ ลาภทวีสมสิทธิ์ เจ้าของผู้ผลิตเสื้อผ้าและเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต เป็นผู้ต้องหา โดยกล่าวหาว่า ปลอมเครื่องหมายการค้า และมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักรซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

นอกจากนี้ยังได้ตรวจค้นจับกุมผู้จำหน่ายในเครือข่ายของการผลิตเสื้อผ้ากีฬาดังกล่าว อีก ๒ จุด คือ

จุดที่  ๗ ร้าน C.D.Sport ตั้งอยู่เลขที่ ๙๔๓ จุฬาซอย ๑๐ แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

จุดที่ ๘ บ้านเลขที่ ๒๖/๑๑ หมู่ ๙ ซอยดวงมณี ถนนงามวงศ์วาน อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี  ซึ่งเป็นบ้านของเจ้าของร้าน C.D.Sport

ผลการตรวจค้นทั้ง ๒ จุด พบเสื้อกีฬาปลอมเครื่องหมายการค้ารวม ๑,๗๖๐ ตัว จึงได้จับกุมตัว
นางภวิกา อุสาพรหม เจ้าของบ้านและเจ้าของร้าน C.D.Sport โดยกล่าวหาว่า เสนอจำหน่าย และมีไว้เพื่อจำหน่าย
ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร
ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

                    โดยพลตำรวจเอกชัชวาลย์ สุขสมจิตร์  อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มองแนวทางการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาว่า การปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เป็นมาตรการเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการอย่างมีระบบ มุ่งเน้นการทำลายเครือข่ายการผลิต และสถานที่ที่ใช้เก็บสินค้าเพื่อส่งต่อไปยังผู้ค้าต่อไป ซึ่งในครั้งนี้สามารถจับกุมขบวนการผลิตรายใหญ่ที่มีเครือข่ายการจำหน่ายในประเทศและมีการส่งออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งทำให้ประเทศไทยถูกจับตามองจากทั่วโลกว่าเป็นผู้ผลิตสินค้าปลอมส่งออกรายสำคัญ

                    ในการตรวจค้นจับกุมครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่มีนโยบายในการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และจะได้ดำเนินการสืบสวนจับกุมการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเฉพาะเขตพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (พื้นที่สีแดง) และโรงงานผลิตสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญารายใหญ่ที่ทำกันเป็นขบวนการ อย่างต่อเนื่องและเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

 

------------------------------------------

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ