ศรส. ขอให้ความมั่นใจแก่พี่น้องประชาชนทุกคนที่จะไปเลือกตั้ง และการเลือกตั้งครั้งนี้จะนำไปสู่การปฏิรูปตามกฎหมาย
เผยแพร่: 1 ก.พ. 2557 16:29 น. ปรับรุง: 1 ก.พ. 2557 16:29 น. เปิดอ่าน 2210 ครั้ง
ประเด็นแถลงข่าวของ ศรส. วันนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2557)
ที่ประชุม ศรส. วันนี้ มีมติที่สำคัญ ดังนี้
ศรส. ขอให้ความมั่นใจแก่พี่น้องประชาชนทุกคนที่จะไปเลือกตั้ง และการเลือกตั้งครั้งนี้จะนำไปสู่การปฏิรูปตามกฎหมาย ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ นี้ เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ประชาชนชาวไทยผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคนต้องออกไปใช้สิทธิเลือกผู้แทนเข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ อันเป็นการรักษาไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยในวันนี้ ศรส. ได้ประชุมกำหนดแผนการปฏิบัติเพื่อดูแลการจัดการเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่ง ศรส. ได้จัดเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ประกอบด้วย ข้าราชการ ตำรวจ และทหาร ประจำทุกหน่วยเลือกตั้งและสำนักงานเขตทั้ง 50 เขตในกรุงเทพมหานคร เพื่อทำหน้าที่อำนวยความสะดวกและคุ้มครองป้องกันพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ไปใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งให้ได้รับความสะดวกและปลอดภัยอย่างดียิ่ง นอกจากนี้ ศรส. ยังได้จัดเจ้าหน้าที่ชุดผสมเคลื่อนที่เร็วประจำจุดสำคัญ ๆ ต่าง ๆ ทั่วทั้ง กทม. และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อเข้าสมทบระงับเหตุตามสถานการณ์เท่าที่จำเป็นอีกด้วย สำหรับต่างจังหวัดนั้น ศรส. ได้ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองทัพภาค จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเข้าดูแลความเรียบร้อยทุกหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศเช่นกัน
ศรส. จึงขอแจ้งให้พี่น้องประชาชนเกิดความมั่นใจว่าการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งของท่านในวันพรุ่งนี้จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสวัสดิภาพอย่างแน่นอน อนึ่ง ในเขต กทม. พี่น้องประชาชนสามารถติดต่อขอทราบข้อมูลการจราจรหรือสอบถามความสงบเรียบร้อยเพื่อความมั่นใจของทุกท่านได้ที่หมายเลข 1599 ได้ตลอดเวลาครับ การออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการร่วมกันรักษาไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยแล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้ยังจะเป็นการนำไปสู่การปฏิรูปประเทศ เพราะเมื่อประชาชนได้ไปเลือกตั้งแล้วก็จะทำให้รัฐบาลชุดนี้พ้นไปจากการปฏิบัติหน้าที่ แล้วได้รัฐบาลที่เป็นทางการเพื่อบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งจะทำให้การปฏิรูปประเทศเดินหน้าได้อย่างแท้จริงและเป็นไปตามกฎหมาย
อนึ่ง การที่ กปปส. ประกาศจะระดมคนออกมาชุมนุมในท้องถนนและกีดขวางทางจราจรโดยเรียกว่า การจัดปิคนิกทั่วกรุงเทพนั้น เป็นเพียงข้ออ้าง ซึ่งแท้จริงแล้วคือการขัดขวางการเลือกตั้งนั่นเอง ศรส. ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน อย่าได้ออกมาชุมนุม เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ทั้งกฎหมายเลือกตั้งและกฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉิน ประการสำคัญจะเป็นการล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของพี่น้องประชาชนด้วยกันกรณีการขัดขวางการเลือกตั้ง จึงไม่ใช่เรื่องการเมืองกับการเมือง แต่เป็นการขัดขวางสิทธิของประชาชนด้วยกัน
ศรส. ขอแจ้งย้ำเตือนประชาชนว่า การขัดขวางการเลือกตั้งเป็นความผิดที่มีโทษจำคุก 1 ปี ถึง 5 ปี และโทษปรับ 20,000 ถึง 100,000 บาท รวมถึงโทษตัดสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี ตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ดังตัวอย่างเมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดสมุทรสาครได้อนุมัติหมายจับดำเนินคดีกับผู้ไปขัดขวางการเลือกตั้งแล้วด้วย ซึ่งจะมีการดำเนินคดีกับทุก ๆ ราย ที่ไปขัดขวางการเลือกตั้งภายในกำหนดอายุความ จึงขอร้องประชาชนอย่าได้ไปขัดขวางการเลือกตั้งตามคำชักชวนของ กปปส. เป็นอันขาด เพราะท่านจะมีความผิดติดตัวอย่างแน่นอน โดย ศรส.จะจัดเจ้าหน้าที่บันทึกภาพผู้กระทำผิดไว้ทั้งหมด รวมทั้งขอให้พี่น้องประชาชนที่พบเห็นการขัดขวางการเลือกตั้งถ่ายภาพไว้แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตลอดเวลา หรือที่ศูนย์รับแจ้งเหตุหมายเลข 1599 ด้วยสำหรับพี่น้องประชาชนท่านใดที่ประสงค์จะทำบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อนำไปใช้แสดงตนในวันเลือกตั้ง ให้ไปดำเนินการที่จังหวัดหรือสำนักงานเขตในวันนี้และวันพรุ่งนี้ได้ด้วยครับ
เนื่องจากเช้าวันนี้ มี กกต. บางคนคือ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ได้ให้สัมภาษณ์ว่าจะสั่งงดการเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้ โดยอ้างเหตุต่าง ๆ นานา ศรส.พิจารณาแล้วเห็นควรมีหนังสือด่วนแจ้ง กกต. ดังต่อไปนี้
1. ศรส. ขอเรียกร้องให้ กกต. แก้ไขปัญหาบัตรเลือกตั้ง ส.ส. ประเภทบัญชีรายชื่อในเขต 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังติดค้างอยู่ ณ ศูนย์ไปรษณีย์บางแห่ง เพราะการชุมนุมปิดล้อมของ กปปส. โดยการจัดส่งบัตรเลือกตั้งชุดใหม่ส่งตรงไปยังจังหวัดที่จัดเลือกตั้ง และหากเป็นการสุดวิสัยที่จะทำได้ กกต.ก็ต้องให้การเลือกตั้งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในส่วนของการเลือกตั้ง ส.ส.เขต ดำเนินการต่อไปได้ เพราะมีความพร้อมในทุก ๆ ด้านแล้ว โดยเฉพาะเป็นความต้องการของพี่น้องประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
2. การขัดขวางการแจกจ่ายบัตรเลือกตั้งในบางจังหวัดที่ปรากฏในขณะนี้ กกต.จะอาศัยเป็นเหตุสั่งยกเลิกไม่ให้มีการเลือกตั้งทั่วประเทศไม่ได้เป็นอันขาด เพราะขณะนี้การจัดการเลือกตั้งในเขตจังหวัดต่าง ๆ กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ มีความพร้อมครบถ้วนทุกประการแล้ว หาก กกต.ยังจะสั่งยกเลิกการเลือกตั้ง ทั่วประเทศต่อไป ย่อมเป็นการกระทำที่ไม่มีกฎหมายรองรับ และเป็นการจงใจของ กกต. ที่จะไม่จัดการเลือกตั้ง กกต.ต้องรับผิดชอบทั้งทางอาญาและทางแพ่ง และถือเป็นการทำลายการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน