ศาลพิพากษาจำคุกกรณีหลอกลวงหญิงไทยไปบังคับค้าประเวณีที่สาธารณรัฐเกาหลี
เผยแพร่: 12 ก.พ. 2562 16:17 น. ปรับรุง: 12 ก.พ. 2562 16:17 น. เปิดอ่าน 2970 ครั้ง
ศาลพิพากษาจำคุกกรณีหลอกลวงหญิ
เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2562 ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาลงโทษจำคุ กนายคิม ฮยองจุน จำเลยที่ 1 สัญชาติสาธารณรัฐเกาหลี เป็นระยะเวลา 30 ปี 4 เดือน และพิพากษาลงโทษจำคุก นางสาวจุฬารัตน์ หรือชัชฎาพร เจริญเนตร จำเลยที่ 2 และนายชัยชาญ ราชโพธิ์ทอง จำเลยที่ 3 สัญชาติไทย เป็นระยะเวลา 30 ปี พร้อมให้จำเลยทั้งสามร่วมกั นชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสี ยหายสองรายเป็นเงินคนละ 500,000 บาท
กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิ เศษได้สอบสวนดำเนินคดีอาญาเป็ นคดีพิเศษที่ 41/2560 กรณีกลุ่มขบวนการที่ประกอบด้ วยบุคคลจากสาธารณรัฐเกาหลี และคนไทยได้หลอกลวงหญิ งไทยจำนวนสองคนให้ ไปทำงานนวดแผนไทยที่สาธารณรั ฐเกาหลี แต่กลับนำไปบังคับค้าประเวณี และยังได้ขายหญิงไทยกลุ่มดังกล่ าว ไปยังนายหน้ารายอื่นอีก อันเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิ ดฐานค้ามนุษย์และมีลักษณะเป็ นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งในการสืบสวนสอบสวนพบมีบุ คคลร่วมกระทำความผิดจำนวน 10 คน เป็นคนไทย 3 คน และคนสัญชาติสาธารณรัฐเกาหลี 7 คน โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษสามารถติ ดตามจับกุมดำเนินคดีได้จำนวน 4 คน ประกอบด้วยจำเลยที่ 1 - 3 และนายโอ จังฮยอน สัญชาติสาธารณรัฐเกาหลี ที่จับกุมตัวได้แต่ได้หลบหนี ในระหว่างได้รับการประกันตัว สำหรับผู้ต้องหาที่เหลือศาลได้ ออกหมายจับแล้วและยังหลบหนี การจับกุมอยู่ ประกอบด้วยบุคคลสัญชาติไทย 1 คน คือนางสาวพัฒนาภรณ์ พุ่มพิพัฒน์ และบุคคลสัญชาติสาธารณรัฐเกาหลี อีก 6 คน คือ นายโอ จังฮยอน, นายซอง โมคยอง, นายคิม ทุลอี, นายคิม กีฮวัน, นายยุน ชิโฮ และนายคิม ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง โดยอยู่ระหว่างการสืบสวนจับกุ มเพื่อนำตัวมาดำเนินคดี และสำหรับคนต่างชาตินั้ นกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ ประสานงานกับสำนักงานอัยการสู งสุดเพื่อดำเนินการตามพระราชบั ญญัติว่าด้วยการส่งตัวผู้ร้ายข้ ามแดน พ.ศ. 2551 แล้ว
กรณีดังกล่าว เป็นความมุ่งมั่นและทุ่ มเทของกรมสอบสวนคดีพิเศษและเจ้ าหน้าที่ทุกคนเพื่อป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ที่ถือเป็ นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ เพื่อให้สังคมไทยมีความสงบสุข โดยเฉพาะภัยของการค้ามนุษย์ข้ามชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่ร้ ายแรงและกระทบต่อความสงบเรียบร้ อยของสังคมโดยรวมกรมสอบสวนคดีพิเศษขอประชาสัมพั นธ์เพื่อทราบผลการปฏิบัติ งานและแจ้งเตือนมายังสาธารณชนว่ าในการจะตัดสินใจไปประกอบอาชี พที่ต่างประเทศ ท่านควรตรวจสอบข้อมูลกับหน่ วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการจัดหางาน เพื่อทราบข้อมู ลของการไปประกอบอาชีพ และขั้นตอนที่ถูกต้อง รวมทั้งข้อมูลอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่ มมิจฉาชีพ ทั้งนี้ หากมีเบาะแสเกี่ยวกับการค้ามนุ ษย์ สามารถแจ้งเบาะแสมายั งกรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขที่ 128 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 หรือทางสายด่วน “1202” โทรฟรีทั่วประเทศ ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษจะเก็บรักษาข้ อมูลผู้แจ้งเบาะแสเป็นความลับ
จึงประชาสัมพันธ์มาเพื่ อทราบโดยทั่วกัน
คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ
12 กุมภาพันธ์ 2562
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เปิดอ่าน 89 ครั้ง
เปิดอ่าน 72 ครั้ง
เปิดอ่าน 455 ครั้ง
ข่าวที่น่าสนใจ
เปิดอ่าน 89 ครั้ง
เปิดอ่าน 72 ครั้ง
เปิดอ่าน 455 ครั้ง