สรุปผลการประชุม ศอ.รส. เมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๗
เผยแพร่: 19 มี.ค. 2557 13:23 น. ปรับรุง: 19 มี.ค. 2557 13:23 น. เปิดอ่าน 1382 ครั้งสรุปผลการประชุม ศอ.รส. เมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๗
ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. มีผลการประชุมสมควรแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบ ดังนี้
เรื่องที่ ๑ ตามที่ได้เกิดเหตุชุมนุมเรียกร้องของกลุ่มบุคคลที่เรียกตัวเองว่า คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ซึ่งมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวก เป็นแกนนำ มีการกระทำที่ล่วงละเมิดต่อกฎหมายหลายเรื่องหลายกรณี อาทิเช่น การกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา โดยร่วมกันกระทำการเป็นกบฏตามมาตรา ๑๑๓ และมาตรา ๑๑๔ ร่วมกันยุยงส่งเสริมให้ประชาชนล่วงละเมิดต่อกฎหมาย ตามมาตรา ๑๑๖ ร่วมกันมั่วสุมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา ๒๑๕ มีการปลุกระดม ยุยง ปลุกปั่นให้ประชาชนล้มล้างอำนาจรัฐและล่วงละเมิดกฎหมายด้วยวิธีการต่าง ๆ อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน กระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่ทำให้เกิดความไม่สงบขึ้นในหลายพื้นที่ มีการปิดการจราจรในถนนสำคัญ บุกรุกและยึดสถานที่ราชการหลายแห่ง ไล่ข้าราชการ พนักงาน หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐออกจากสถานที่ราชการ ตัดน้ำตัดไฟ เอาโซ่คล้องประตูเพื่อไม่ให้ข้าราชการ พนักงาน หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐทำงานได้ ทำให้การบริการของรัฐให้แก่ประชาชนไม่สามารถดำเนินการไปได้ตามปกติ ก่อให้เกิดความวุ่นวาย เกิดความล่าช้า มีความพยายามจะเข้าควบคุมตัวผู้บริหารหรือบุคคลสำคัญที่มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน ขัดขวางการใช้ชีวิตโดยปกติสุขของประชาชนทั่วไป ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เดือดร้อน เสียหายและเกรงกลัวอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน ตลอดจนมีการใช้กำลัง ขัดขืนต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย มีการก่อเหตุร้ายโดยกลุ่มกองกำลังไม่ทราบฝ่ายทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก รวมถึงการขัดขวางการเลือกตั้งทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและในต่างจังหวัดภาคใต้ เป็นผลให้เกิดการเสียหายทางเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก จนในที่สุดศาลได้ออหมายจับนายสุเทพฯ พร้อมแกนนำ กปปส. จำนวนมาก ทั้งในข้อหาร่วมกันเป็นกบฏ ข้อหาขัดขวางการเลือกตั้ง และข้อหาฉกรรจ์อื่น ๆ อีกหลายข้อหา บัดนี้ รัฐบาลได้ประกาศยกเลิกการใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ แล้ว และได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรฯ พร้อมกับจัดตั้งศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. โดยมีร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นผู้อำนวยการ ศอ.รส. ศอ.รส. ขอเรียนว่า ศอ.รส. ไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับกลุ่ม กปปส. กับกลุ่ม นปช. หรือกับกลุ่มใด แต่ ศอ.รส.เป็นหน่วยงานพิเศษตามกฎหมายที่จัดตั้งขึ้นเพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย และบังคับใช้กฎหมายเพื่อแก้ไขสถานการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และ ศอ.รส.จะปฏิบัติหน้าที่ไม่สำเร็จลุล่วงเลยถ้าขาดการร่วมมือจากพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะความร่วมมือที่จะไม่ออกจากบ้านไปชุมนุม หรือไปยังสถานที่เสี่ยงในยามวิกาล หรือกระทำการใด ๆ ตามที่แกนนำ กปปส. ยุยงส่งเสริม ซึ่งจะสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ศอ.รส. ร่วมกับตำรวจ ทหารและพลเรือน ทุกฝ่าย จะพยายามปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อนำความสงบสุขกลับคืนสู่บ้านเมืองเหมือนเช่นเดิมโดยเร็ว
เรื่องที่ ๒ ศอ.รส.ขอเรียนชี้แจงถึงการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดโดยเฉพาะกลุ่มแกนนำของ กปปส. ที่ได้กระทำผิดอย่างต่อเนื่องต่างกรรมต่างวาระตลอดมาว่า แม้จะได้มีการประกาศยกเลิกการใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ แล้วก็ตาม ผลในทางกฎหมายต่อการดำเนินคดีแกนนำผู้กระทำผิดหาได้เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่สอบสวนทั้งตำรวจ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และพนักงานอัยการที่เข้าร่วมสอบสวน ยังคงมีหน้าที่ดำเนินการสืบสวนสอบและนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อรับโทษต่อไป โดยเฉพาะความผิดต่าง ๆ ที่แกนนำได้กระทำไปแล้ว ถือว่าเป็นความผิดสำเร็จ จึงหาได้ยกเลิกเพิกถอนไปแต่ประการใด เช่น ความผิดร่วมกันเป็นกบฏ ร่วมกันยุยงส่งเสริมให้ประชาชนล่วงละเมิดต่อกฎหมาย ร่วมกันมั่วสุมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ความผิดการขัดขวางการเลือกตั้งตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง และความผิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องเกี่ยวพัน คงมีแต่หมายจับเฉพาะหมาย ฉ ที่ศาลได้ออกตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ เท่านั้นที่สิ้นผลไป และในวันนี้ ศาลอาญาธนบุรีได้อนุมัติหมายจับ นายชุมพล จุลใส ในฐานขัดขวางการเลือกตั้ง จากการที่ได้เป็นแกนนำพามวลชนไปปิดล้อมหน่วยเลือกตั้งสำนักงานเขตภาษีเจริญ ทั้งนี้ ศอ.รส.จะได้กำกับดูแลและเร่งรัดให้การดำเนินคดีเป็นไปโดยรอบคอบ รวดเร็ว และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องปรามให้ผู้ที่กำลังกระทำความผิดอยู่ ยุติการกระทำผิดเสีย และมิให้เป็นเยี่ยงอย่างกับผู้ที่คิดจะกระทำผิด ในอนาคต จึงประกาศมาเพื่อทราบทั่วกัน
______________________