สรุปผลการประชุม ศอ.รส. เมื่อวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๕๗

เผยแพร่: 3 เม.ย. 2557 13:19 น. ปรับรุง: 3 เม.ย. 2557 13:19 น. เปิดอ่าน 1230 ครั้ง  
 

สรุปผลการประชุม ศอ.รส. เมื่อวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๕๗  

 

 

ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. มีผลการประชุมสมควรแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบ ดังนี้  

 

เรื่องที่ ๑ ศอ.รส. ได้รับทราบถึงการที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งไม่รับพิจารณาคำร้องที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะ ผู้อำนวยการ ศอ.รส. และในฐานะส่วนตัว ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยว่าการกระทำของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวก ซึ่งเป็นแกนนำ กปปส. เป็นการชุมนุมที่ไม่สงบ และปราศจากอาวุธ และเป็นการกระทำเพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ซึ่งตามคำร้องดังกล่าวได้นำเสนอข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานประกอบอย่างชัดเจนแล้ว กล่าวคือ

๑) ร่วมกันจัดให้มีการชุมนุมขับไล่โค่นล้มรัฐบาลและทำการปฏิรูปการปกครองประเทศใหม่ และจะทำการจัดตั้งรัฐบาลของประชาชน สภาของประชาชน และศาลประชาชน

๒) การปิดเส้นทางจราจร รวมทั้งมีการชุมนุมกระจายไปยังเส้นทางต่างๆ

๓) การบุกยึดและปิดล้อมสถานที่ต่างๆ

๔) การขัดขวางการเลือกตั้ง

๕) การปิดกรุงเทพมหานคร

๖) การฝ่าฝืนการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และ

๗) การใช้กำลังประทุษร้ายจนมีผู้ถึงแก่ความตายและบาดเจ็บจำนวนมาก รวมถึงการสะสมอาวุธและใช้อาวุธร้ายแรงก่อเหตุร้าย และกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาหลายประการ   ศอ.รส.ขอเรียนว่า ข้อเท็จจริงต่างๆ ที่ปรากฏต่อสาธารณชนตลอดระยะเวลาที่มีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๖ เป็นต้นมา ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. มิใช่การชุมนุมที่สงบและปราศจากอาวุธ แต่กลับมีการใช้ความรุนแรงและการกระทำผิดกฎหมายหลายบท กล่าวคือ การกระทำผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ การยุยงส่งเสริมให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย การก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง การขัดขวางการเลือกตั้ง การบุกรุกสถานที่ราชการ และความผิดอื่นๆ ที่ต่อเนื่องเกี่ยวพันกัน ซึ่งศาลก็ได้ออกหมายจับแกนนำเป็นจำนวนมากแล้ว ศอ.รส. จึงไม่อาจเห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้ และผิดหวังต่อองค์คณะตุลาการเป็นอย่างยิ่ง และศอ.รส. ขอถือโอกาสนี้ แสดงความเสียใจต่อพี่น้องประชาชนที่ ศอ.รส. ไม่สามารถผลักดันให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่พึ่งและเป็นกลไกในการรักษาความสงบเรียบร้อยได้ อย่างไรก็ตาม ศอ.รส. จะมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ต่อไป โดยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายแล้ว ดังนั้น ศอ.รส. จึงขอร้องให้พี่น้องประชาชนงดเว้นการเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มใดๆ เนื่องจากอาจมีเหตุร้ายเกิดขึ้นระหว่างการชุมนุม แม้ว่า ศอ.รส. จะได้พยายามอย่างเต็มที่ในการระงับยับยั้งเหตุร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้วก็ตาม โดยล่าสุด ศอ.รส. ได้บูรณาการและปรับเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และพลเรือนเพื่อเตรียมการรักษาความปลอดภัยสำหรับการชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม กปปส. และกลุ่ม นปช. ในวันที่ ๕ เมษายนนี้แล้วด้วย ทั้งนี้ ศอ.รส. ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ. วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้ช่วยผู้อำนวยการ ศอ.รส. ได้จัดประชุมฝ่ายตำรวจและทหาร เพื่อทำการสำรวจพื้นที่ วิเคราะห์สถานการณ์ จัดกำลัง และทำแผนเผชิญเหตุต่างๆ เรียบร้อยแล้ว   อนึ่ง การที่แกนนำ กปปส. ได้อภิปรายและทำสติกเกอร์เผยแพร่ทั่วไป โดยยั่วยุให้ผู้ชุมนุม กปปส. มีการแก้แค้นเอาคืนจากการชุมนุมของ นปช. ในวันที่ ๕ เมษายนนี้ เป็นสิ่งที่ควรแก่การถูกประนามเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการปลุกเร้าให้ผู้ชุมนุมและการ์ดใช้ความรุนแรงและใช้อาวุธเข้าทำร้ายกัน ซี่งไม่ถูกต้องและเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย  

 

เรื่องที่ ๒ ตามที่แกนนำ กปปส. จำนวน ๕๘ คน ถูกดำเนินคดีฐานร่วมกันเป็นกบฏ ร่วมกันยุยงให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย ร่วมกันมั่วสุมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ร่วมกันขัดขวางการเลือกตั้ง และความผิดฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ได้ทยอยมาเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและให้การต่อสู้คดี ซึ่งล่าสุดมีจำนวนทั้งสิ้น ๖ คนแล้วนั้น ศอ.รส. ขอเรียนว่า เมื่อได้เข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษแล้ว ก็ถือได้ว่าผู้ต้องหาดังกล่าวได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อต่อสู้คดีตามกฎหมาย และถือได้ว่าเป็นการยอมรับอำนาจรัฐตามกฎหมายแล้ว ซึ่ง ศอ.รส. ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีอย่างเป็นธรรมต่อผู้ต้องหาทุกคน และ ศอ.รส. ขอแจ้งไปยังผู้ต้องหาที่เหลือ ให้มาพบพนักงานสอบสวนภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อประโยชน์ ของตัวท่านเอง มิฉะนั้นคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษมีความจำเป็นต้องดำเนินการส่งสำนวนการสอบสวนให้กับพนักงานอัยการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาต่อไป  

 

 

จึงประกาศมาเพื่อทราบทั่วกัน    

 ______________________

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ