อธิบดี DSI ลงพื้นที่หาดเลพัง ร่วมกับหน่วยงานของรัฐ เรียกคืนที่สาธารณะให้กับแผ่นดิน
เผยแพร่: 17 พ.ย. 2560 11:09 น. ปรับรุง: 17 พ.ย. 2560 11:09 น. เปิดอ่าน 2616 ครั้งอธิบดี DSI ลงพื้นที่หาดเลพัง
ร่วมกับหน่วยงานของรัฐ เรียกคืนที่สาธารณะให้กับแผ่นดิน
จากกรณีที่คณะกรรมการคดีพิเศษได้มีมติให้การบุกรุกที่ดินบริเวณหาดลายันและหาดเลพัง หมู่ที่ 4 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เป็นคดีพิเศษ และต่อมาพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้รับกรณีการออกโฉนดที่ดิน 2 แปลง เป็นคดีพิเศษ 2 คดี ประกอบด้วย โฉนดที่ดินเลขที่ 20777 เนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์ป่าลายัน ภายในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ และโฉนดที่ดินเลขที่ 21047 เนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่นอกเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ แต่เป็นที่สาธารณะ ซึ่งตรวจพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเคยมีสภาพเป็นทะเลมาก่อน และมีถนนเลียบชายหาด ต่อมาได้เกิดแผ่นดินงอกจากชายทะเล พื้นที่ดังกล่าวจึงเป็นที่ดินของรัฐซึ่งเป็นที่สาธารณะประโยชน์ โดยโฉนดที่ดินทั้งสองแปลงมี เจ้าหน้าที่รัฐรายหนึ่ง เป็นผู้ลงนาม โดยไม่มีอำนาจ มูลค่าของที่ดินประมาณไร่ละ 70 ล้านบาท ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2560 ศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้มีคำพิพากษาลงโทษจำคุกเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ออกโฉนดที่ดินเลขที่ 21047 โดยมิชอบ และมีคำสั่งให้เพิกถอนโฉนดดังกล่าว ส่วนอีก 1 คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฯ
จากการตรวจสอบพบว่ามีเอกชนประมาณ 9 ราย ที่ทำการยึดถือครอบครองที่ดินต่อจากโฉนดที่ดินทั้งสองแปลง ซึ่งมีทั้งออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบบ้าง ถูกเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้วบ้าง ครอบครองโดยไม่มีหลักฐานบ้าง โดยพื้นที่ดังกล่าวมีสภาพเป็นทะเลมาก่อน จึงไม่มีผู้ใดที่ยึดถือครอบครองมาก่อนประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับในปี 2497 ซึ่งต่อมาเมื่อรัฐจะขึ้นทะเบียนเป็นที่สาธารณะประโยชน์ ก็ได้ถูกคัดค้านโดยเอกชนจำนวน 9 ราย และนำเรื่องขึ้นสู่ศาล จนกระทั่งเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ศาลจังหวัดภูเก็ตได้อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา ระบุว่าที่ดินจำนวน 178 ไร่ บริเวณหาดเลพัง เป็นที่สาธารณประโยชน์
ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พันตำรวจโท ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พันตำรวจโท มนตรี บุณยโยธิน ผู้อำนวยการกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะสนธิกำลังกับ จังหวัดภูเก็ต อำเภอถลาง องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล เจ้าหน้าที่ทหารจากกองพลทหารราบที่ 5 ทัพเรือภาคที่ 3 กรมป่าไม้ ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเชิงทะเล สำนักงานเจ้าท่าจังหวัดภูเก็ต สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต สาขาถลาง สำนักงานบังคับคดีจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่หาดเลพัง เพื่อทำการแจ้งเตือนผู้บุกรุกให้ออกจากพื้นที่พิพาทภายใน 30 วัน และปักป้ายยังจุดที่มีการบุกรุกเพื่อให้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนพื้นที่สาธารณะดังกล่าว พร้อมทั้งดำเนินการเก็บพยานหลักฐาน เมื่อครบกำหนด หากผู้บุกรุกไม่ออกจากพื้นที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษก็จะรับเป็นคดีพิเศษทันที และจะดำเนินมาตรการทางกฎหมายอย่างเฉียบขาดต่อไป
พื้นที่หาดลายันที่มีการบุกรุกนี้มีความยาวตามแนวชายทะเลประมาณ 2.5 กิโลเมตร เนื้อที่โดยประมาณ 200 ไร่ มูลค่าการซื้อขายไร่ละ 70 ล้านบาท รวมมูลค่าประมาณ 14,000 ล้านบาท การทวงคืนแผ่นดินรัฐจากผู้บุกรุกและบังคับใช้กฎหมายถือเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ให้ความสำคัญและถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะนำกลับมาเป็นสมบัติของแผ่นดิน โดยการดำเนินการครั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้บุกรุกได้ออกจากพื้นที่โดยเร็ว หากยังคงฝ่าฝืนยึดถือครอบครองที่สาธารณะไม่ยอมออกจากพื้นที่ ก็จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป
การบังคับใช้กฎหมายครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของหลายฝ่ายทั้งภาครัฐและภาคท้องถิ่น รวมถึงพนักงานอัยการที่ร่วมกันต่อสู้คดีจนคดีถึงที่สุด และศาลฎีกามีคำพิพากษาให้เป็นที่สาธารณะประโยชน์ ผืนแผ่นดินแห่งนี้จะต้องกลับมาเป็นสมบัติของประชาชนคนไทยและของชาติ เพื่อจะสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศต่อไป