อธิบดี DSI มีความเห็นสั่งฟ้องอดีตผู้ใหญ่บ้านกับชาวบ้าน สนับสนุนเจ้าหน้าที่ ออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่าวนาง-ป่าหางนาค ท้องที่ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่

เผยแพร่: 11 พ.ย. 2566 13:00 น. ปรับรุง: 11 พ.ย. 2566 13:00 น. เปิดอ่าน 1162 ครั้ง  
 

อธิบดี DSI มีความเห็นสั่งฟ้องอดีตผู้ใหญ่บ้านกับชาวบ้าน สนับสนุนเจ้าหน้าที่
ออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่าวนาง-ป่าหางนาค
ท้องที่ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่



               กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน กรณีมีกลุ่มบุคคลบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอ่าวนางป่าหางนาค โดยมีการออกหนังสือแสดงสิทธิ์โฉนดที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 51 แปลง   รวมเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ ในเขตพื้นที่ตำบลหนองทะเล อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เป็นคดีพิเศษ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ทำการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว เห็นว่าโฉนดที่ดิน จำนวน  33 แปลง เนื้อที่ประมาณ 97-3-10 ไร่ ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากที่ดินเป็นที่เขาหรือภูเขาและไม่มีลักษณะการทำประโยชน์มาก่อนอีกทั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ การกระทำของนายสถาพร (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผู้ดำเนินการขีดเขตและรับรองแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ที่ดิน ผู้เกี่ยวข้องในการออกโฉนดที่ดิน เป็นการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และยังมีบุคคลซึ่งเป็นผู้ยื่นคำขอและนำเจ้าพนักงานที่ดินเดินสำรวจเพื่อออกโฉนดที่ดินได้ร่วมกระทำการกับเจ้าหน้าที่ด้วย ซึ่งคดีอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาไต่สวน เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2552
               ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2561 สำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีหนังสือส่งเรื่องกรณีการออกโฉนดที่ดิน จำนวน 33 แปลง ให้พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญากับนายกาหรีม (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ใหญ่บ้าน และราษฎรที่ยื่นคำขอและนำเจ้าพนักงานที่ดินเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน รวม 23 ราย ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 จากการสอบสวนของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พบข้อเท็จจริงว่าการกระทำของนายกาหรีมฯ และราษฎรที่ยื่นคำขอและนำเจ้าพนักงานที่ดินเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน 33 แปลง แต่ละรายไม่ได้กระทำความผิดร่วมกันไม่มีความเกี่ยวข้องกัน จึงได้แยกสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษเป็น 23 คดี
               คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว เห็นว่าคดีมีพยานหลักฐาน เพียงพอรับฟังได้ว่าการกระทำของนายกาหรีมฯ และราษฎรที่ยื่นคำขอและนำเจ้าพนักงานที่ดิน เดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน 33 แปลงดังกล่าว เป็นความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐ และเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 และบางรายในความผิดฐานยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 และประมวลกฎหมายที่ดินอีกด้วย
               พันตำรวจตรี สุริยา  สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้มีความเห็นควรสั่งฟ้อง นายกาหรีมฯ และราษฎร์ที่ยื่นคำขอและนำเจ้าพนักงานที่ดินเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินฯ ในฐานความผิดดังกล่าวข้างต้น คดีพิเศษที่ 87, 91, และ 104/2563 คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการแล้ว เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 และวันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษไปแล้ว จำนวน 20 คดี
-----------------------------------
ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566

เอกสารที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ