DSI ลงนาม MOU ว่าด้วยการเปิดเผยและการใช้ข้อมูล กับกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและการป้องกันเขตแดนแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย
เผยแพร่: 22 พ.ย. 2560 9:59 น. ปรับรุง: 22 พ.ย. 2560 9:59 น. เปิดอ่าน 1637 ครั้ง ENDSI ลงนาม MOU ว่าด้วยการเปิดเผยและการใช้ข้อมูล กับกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและการป้องกันเขตแดนแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย
วันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน 2560) ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรเลีย พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และ นายไมเคิล เอาท์แทรม (Mr. Michael Outram APM) รักษาการในตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานพิทักษ์เขตแดนออสเตรเลีย (Australian Border Force - ABF) ในฐานะผู้แทนกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและการป้องกันเขตแดนแห่งเครือรัฐออสเตรเลียได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเปิดเผยและการใช้ข้อมูล (MOU on the Disclosure and Use of Information) ระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ กับกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและการป้องกันเขตแดนแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย โดยมี พันตำรวจเอก ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และพันตำรวจโท ไพศิษฎ์ สังคหะพงศ์ ผู้อำนวยการกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายออสเตรเลีย ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามในครั้งนี้
MOU ดังกล่าวมุ่งส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีความสำคัญต่อภารกิจของทั้งสองหน่วยงาน ได้แก่ การบังคับใช้กฎหมายยาเสพติด กฎหมายศุลกากร กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมพรมแดนข้ามชาติ (Transnational Border Crime) โดยที่ผ่านมา DSI และ ABF ได้ร่วมมือกันในหลายมิติ ทั้งการพัฒนาสมรรถนะของบุคลากร และการแลกเปลี่ยนข้อมูล อันนำไปสู่ความสำเร็จในภารกิจร่วมกัน เช่น การปราบปรามกลุ่มขบวนการลักลอบส่งยาสเตียรอยด์ไปจำหน่ายยังประเทศออสเตรเลีย เมื่อปี พ.ศ. 2559 ซึ่งจากการสนธิกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี DSI สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย และยึดของกลางได้มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท
กรมสอบสวนคดีพิเศษในฐานะที่เป็นหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการแสวงหาพันธมิตร และเสริมสร้างความร่วมมือทางการข่าว ทางคดี และทางวิชาการกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างประเทศ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามของอาชญากรรมข้ามชาติ โดยนอกจากความร่วมมืออย่างไม่เป็นทางการในลักษณะตำรวจต่อตำรวจ (Police-to-Police Cooperation) แล้ว DSI ยังได้ร่วมลงนามใน MOU หรือเอกสารข้อตกลงอื่น ๆ กับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่าง ๆ เช่น กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐอเมริกา องค์กรปราบปรามอาชญากรรมแห่งชาติของสหราชอาณาจักร หน่วยกิจกรมพรมแดนแคนาดา และสำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย โดยการลงนามใน MOU ข้างต้นนอกจากจะส่งเสริมความร่วมมือที่มีอยู่ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปแล้ว ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกันเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ อันจะส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน DSI ในฐานะที่พึ่งของประชาชนต่อไป