อธิบดีดีเอสไอ แถลงนโยบาย ปี65 "มิติใหม่แห่งการสอบสวนคดีพิเศษ" เน้น 7 คดีหลักเร่งทำให้สำเร็จ ยันขับเคลื่อนตามหลักนิติธรรมให้ความเป็นธรรมต่อสังคม เชื่อข้าราชการเติมเต็มศักยภาพทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว

เผยแพร่: 1 ต.ค. 2564 16:03 น. ปรับรุง: 3 พ.ย. 2564 11:05 น. เปิดอ่าน 2130 ครั้ง   EN
 

อธิบดีดีเอสไอ แถลงนโยบาย ปี65 "มิติใหม่แห่งการสอบสวนคดีพิเศษ"
เน้น 7 คดีหลักเร่งทำให้สำเร็จ ยันขับเคลื่อนตามหลักนิติธรรมให้ความเป็นธรรมต่อสังคม
เชื่อข้าราชการเติมเต็มศักยภาพทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว

         วันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม 2564 เวลา 13.30 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ จัดงานแถลงนโยบายกรมสอบสวนคดีพิเศษ ปี 2565 "มิติใหม่แห่งการสอบสวนคดีพิเศษ" โดยนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.อ.อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะผู้บริหารเข้าร่วมงาน

         นายไตรยฤทธิ์ กล่าวว่า วันนี้ตนได้รับแต่งตั้งเป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตนจึงขอสื่อสารไปยังพี่น้องประชาชน นับตั้งแต่วันนี้เราจะเร่งดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมาขึ้น ภายใต้การนำของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ตามนโยบายยุทธศาสตร์ชาติของรัฐบาล เราจะเร่งรัด 7 คดีที่เป็นเป้าหมายพิเศษ คือ 1.คดีรถหรู ที่ยังค้างอยู่ 1,428 คัน มูลค่า 9,800 ล้านบาท 2.คดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ที่เราจะเน้นการยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด 3.ขบวนการฉ้อค่าภาษีรัฐหรือการค้าของเถื่อน ยังค้าง 6 คดี มูลค่า178,000 ล้านบาท 4.คดีเวปไซต์พนันออนไลน์ ที่แพร่ระบาดจำนวนมาก มูลค่าความเสียหาย 900,000 ล้านบาท 5.คดีการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ให้คนไทยถือกรรมสิทธิ์แทน โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวค้างอยู่ 12 คดี มูลค่า 46,000 ล้านบาท 6.การฮั้วประมูล การจัดซื้อจัดจ้าง ค้างอยู่3 คดี มูลค่า 7,000 ล้านบาท และ7.การบุกรุกพื้นที่ทรัพยากรธรรมชาติ นี่คือสิ่งที่เราจะเร่งรัดเพราะมูลค่าความเสียหายมากมายเหลือเกิน

        นายไตรยฤทธิ์ ยังกล่าวว่า การขับเคลื่อนงานด้านคดีพิเศษ ในทุกเรื่องมีกระบวนงานที่ขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบ ตามระเบียบกรมสอบสวนคดีพิเศษว่าด้วยการบริหารงานคดีพิเศษอย่างชัดเจน มีกระบวนงานควบคุม ตรวจสอบ และเร่งรัดให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดไว้อย่างมาตรฐานในการควบคุม กำกับดูแล มีท่านรองอธิบดีซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์การทำงานสูง เป็นผู้ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนงานให้สำเร็จ ลุล่วงไปอย่างมีประสิทธิภาพ ในฐานะอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่มีความรับผิดชอบเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ผู้รับผิดชอบ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ขอยืนยันว่าในทุกคดีพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษจะอยู่บนพื้นฐานของพยานหลักฐานเป็นสำคัญ ทุกคดีถือว่ามีความสำคัญและจะต้องขับเคลื่อนไปตามหลักนิติธรรม ขอยืนยันจะใช้หลักนิติธรรมมาตรฐานทางคุณธรรมและจริยธรรม เป็นความกล้าในการดำเนินคดีพิเศษอย่างเป็นมาตรฐานในทุกคดี ที่อยู่ในความรับผิดชอบไม่ว่าจะเป็นคดีใดก็ตาม

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ