DSI จับมือกรมการขนส่งทางบก บูรณาการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน

DSI จับมือกรมการขนส่งทางบก บูรณาการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน

ในวันอังคารที่ 12 ตุลาคม 2564 เวลา 15.00 น. นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และผู้บริหารระดับสูง ประกอบด้วย พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ     พันตำรวจโท พเยาว์ทองเสน ผู้อำนวยการกองคดีทรัพย์สินทางปัญญา นายมเหสักข์  พันธ์สง่า ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาคและร้อยตำรวจเอก ปิยะ รักสกุล ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษเดินทางเข้าพบนายจิรุตม์  วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และนายเสกสม  อัครพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 5   ณ กรมการขนส่งทางบก เขตจตุจักรกรุงเทพมหานคร  เพื่อหารือแนวทางการ   บูรณาการทำงาน ระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษและกรมการขนส่งทางบก  ในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการดำเนินคดีรถยนต์ (รถหรู) 

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ในการเดินทางเข้าพบอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ในครั้งนี้ เนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ อยู่ในระหว่างดำเนินการคดีรถหรู ซึ่งมีเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกรมการขนส่งทางบกเป็นจำนวนมาก  โดยที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากกรมการขนส่งทางบก วันนี้จึงถือโอกาสเข้าขอบคุณ และร่วมประชุมหารือ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันของทั้งสองหน่วยงาน โดยทั้งสองหน่วยงาน ได้มีบันทึกความตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือในการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับคดีพิเศษ ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2548  ในการหารือครั้งนี้จึงได้กำหนดประเด็นสำคัญ ดังนี้

    1. การกำหนดผู้ประสานงานระหว่างกัน กรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบนายมเหสักข์ พันธ์สง่า  ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค และกรมการขนส่งทางบก มอบนายเสกสม อัครพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5

    2. การประสานงานระหว่างกันในการรวบรวมเอกสาร หลักฐานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ เอกสารเกี่ยวกับจดทะเบียนรถยนต์ และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง 

    3. การดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจรถยนต์ของกลาง

    4. การบันทึกถ้อยคำเจ้าหน้าที่ประกอบเอกสาร

    สำหรับการดำเนินการดังกล่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะจัดส่งข้อมูลรถยนต์ให้กรมการขนส่งทางบก ตรวจสอบและร่วมกันดำเนินการเพื่อให้ได้พยานหลักฐานประกอบสำนวนการสอบสวน ให้การสอบสวนดำเนินคดีเกี่ยวกับรถยนต์มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพต่อไป

คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ

13  ตุลาคม 2564