DSI ลงพื้นที่พิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง พบการบุกรุกป่าชายเลน ใกล้โครงการ “จะนะเมืองต้นแบบนิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” เนื้อที่กว่า 700 ไร่ เตรียมรับเป็นคดีพิเศ
เผยแพร่: 8 มี.ค. 2564 13:19 น. ปรับรุง: 31 พ.ค. 2564 9:13 น. เปิดอ่าน 2318 ครั้ง ENDSI ลงพื้นที่พิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง พบการบุกรุกป่าชายเลน ใกล้โครงการ “จะนะเมืองต้นแบบนิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” เนื้อที่กว่า 700 ไร่ เตรียมรับเป็นคดีพิเศษ
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พันตำรวจโท ปกรณ์ สุชีวกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะกำกับดูแล และ นายมเหสักข์ พันธ์สง่า ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ได้มอบหมายให้ นายชยพล สายทวี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ลงพื้นที่ทำการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง กรณีมีการร้องเรียนกล่าวหาเกี่ยวกับการขอออกเอกสารสิทธ์บริเวณโครงการ “จะนะเมืองต้นแบบนิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ของบริษัททีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ทับที่ดินทำกินของราษฎรในพื้นที่กว่า 100 ไร่ และประเด็นอื่นๆ
กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจาก ประชาชนในพื้นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลาได้ยื่นเรื่องต่อกรมสอบสวนคดีเศษร้องเรียนว่าบริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นเรื่องขอออกโฉนดที่ดิน
ในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิหนังสือรับรองการทำประโยชน์ น.ส.3 ก ทับซ้อนกับที่ทำกินของราษฎรในพื้นที่ซึ่งครอบครองอยู่จำนวนหลายราย และชาวบ้านได้คัดค้านการรังวัดออกโฉนดที่ดินดังกล่าวในขั้นตอนการเดินสำรวจเพื่อรังวัดสอบเขตที่ดินแล้ว โดยให้เหตุผลว่าได้ครอบครองที่ดินดังกล่าวมาโดยตลอด และบางรายถือครองต่อจากปู่มาสู่บิดาแล้วมาสู่ตนเอง บางรายถือครองตกทอดจากผู้ครอบครองเดิมด้วยการซื้อขาย และแต่ละแปลงได้ถือครองมาก่อนหลายสิบปี ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของประมวลกฎหมายที่ดิน แต่ในการลงพื้นที่ตรวจสอบ ปรากฎข้อเท็จจริงเพิ่มเติมที่น่าเชื่อว่ามีการบุกรุกครอบครองที่สาธารณะและที่ป่าชายเลนในพื้นที่จำนวนกว่าพันไร่ และบางแปลงมีการออกเอกสารสิทธิทับที่ป่าชายเลน กว่า 700 ไร่ ที่มีกลุ่มนายทุนอยู่เบื้องหลังโดยที่ดินบริเวณดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ “โครงการจะนะเมืองต้นแบบนิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ตำบลตลิ่งชัน ตำบลนาทับ และตำบลสะกอม อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา
จากกรณีดังกล่าวอาจเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดินและกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดทางอาญาตามที่กฎหมายกำหนดไว้ในบัญชีท้ายประกาศพระราชบัญญัติการสอบสวนพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และตามประกาศ กคพ. (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 เรื่อง กำหนดรายละเอียดของลักษณะของการกระทำความผิดที่เป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547
ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค จะทำการรวบรวมข้อมูลและหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเสนอต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณาสั่งการให้ทำการสืบสวน ตามมาตรา 23/1 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หากพบความผิดจะดำเนินคดีต่อไป